สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 26/01/57
สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 26/01/57
พระกริ่งก้นหนุมาน 2482 หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี ของ สุพจน์ ดากํ่า ร้านคุณน้อย ตลาดโบ๊เบ๊ อุดรฯ. เพิ่งขึ้นปีม้าไม่ทันไร สนามพระเครื่องวิภาวดี วันนี้ก็เป็นอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคมแล้วนะพี่น้อง อีกไม่กี่วัน ก็จะถึง วันเลือกตั้ง เลย ถามกันแต่ว่า จะได้เลือกตั้งไหม แต่บ้างก็ว่า ถ้ามีการเลือกตั้ง ก็ดี เพราะถ้าเราได้เห็นรัฐบาลชุดใหม่ รัฐมนตรีใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ก็อาจจะทำให้คนที่อยากเห็นการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงมีความหวัง ว่าจะแก้ปัญหาเก่าๆเดิมๆได้ เข้าสนามไปดูพระเครื่องเก่าๆเดิมๆ องค์แรกเป็นของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ ต้นตำรับการจัดสร้าง พระกริ่ง สุดยอดของแผ่นดิน
ที่ มีชื่อเสียงและพบเห็นได้ค่อนข้างมากคือ พระกริ่งพรหมมุนี เพราะ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงหล่อขณะสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี ระหว่างปี พ.ศ.2459-2466 รวม 7 ปี โดยเททองสร้าง พระกริ่ง ตามวาระสำคัญทุกปี ระยะแรกระหว่าง พ.ศ.2455-2458 ตามแบบ พระกริ่งเขมร ด้วยเนื้อโลหะผสมสีนากกลับขาวแล้วกลับดําเป็นผิวเนื้อชั้นนอกสุด องค์พระส่วนใหญ่ผ่านการตกแต่ง ด้วยฝีมือ พระครูปลัดจิ๋ว พระมีลักษณะองค์ชะลูดเล็ก จึงเรียก พระกริ่งเขมรน้อย แยกเป็น พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก ต่อมา ระหว่าง พ.ศ. 2459-2466 ทรงเปลี่ยนมาสร้าง พระกริ่ง ตามแบบ พระกริ่งจีนใหญ่ ด้วยเนื้อโลหะผสมสูตรเดิม เทหล่อแบบกริ่งในตัว ส่วนใหญ่มีการตกแต่งงดงาม อย่างองค์นี้ของ เสี่ยอัศวิน ทองประเสริฐ ทายาท หมอเทวดา เมืองชัยนาท อีกองค์ก็เป็นพระกริ่ง คือ พระกริ่ง ก้นหนุมาน หลวงพ่อแฉ่ง วัดศรีรัตนาราม (บางพัง) ปากเกร็ด นนทบุรี หลวงพ่อแฉ่ง เป็นพระเกจิยุคสงคราม วิชาอาคมเข้มขลัง เพราะมีหลายอาจารย์ ได้แก่ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง รวมถึงพระคณาจารย์สายหลวงปู่ศุข หลวงพ่อจง วัดหน้าต่าง องค์สำคัญคือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ท่านได้ชื่อว่าเป็น ศิษย์เอก รับถ่ายทอดวิชา สร้างพระเนื้อดินพิมพ์ทรงสัตว์ ที่ท่านนํามาสร้างตามแบบ และยังเป็นพระสหมิกธรรม ท่านเจ้าคุณพระศรีสัจจญาณมุนี ซึ่งให้คําแนะนําในการสร้าง พระกริ่งก้นหนุมาน พระกริ่งรุ่นนี้ มีลักษณะเด่นที่ใต้ฐานเป็น หนุมานเหินหาว อันเป็นรูปยันต์เอกลักษณ์ท่าน มีอานุภาพเข้มขลังด้านคุ้มครองป้องกันภัย จนร่ำลือว่า ตีสลบก็แค่ลมพัด--ยุค นักเลง ครองเมือง ชายชาตรี ใดไม่มีลายสัก หนุมาน ติดตัวถือว่า ตกเทรนด์ (หรือไม่ก็เป็นแต๋ว) พระกริ่งนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2482 มีเพียง 108 องค์และ 1 ในนั้นคือองค์นี้ของ เสี่ยสุพจน์ ดากํ่า เจ้าของร้าน คุณน้อย ตลาดโบ๊เบ๊ อุดรฯ
องค์ ต่อไป ก็ของ เสี่ยอัศวิน คือ พระปิดตามหายันต์ พิมพ์ยันต์น่องเศียรโต หลวงปู่ทับ วัดสุวรรณาราม (ทอง) บางกอกน้อย กรุงเทพฯ ต้นตํารับพระปิดตาเนื้อโลหะยอดนิยมหมายเลข 1 ที่เรียกกันว่า พระปิดตา พระครูทับ วัดทอง หลวงปู่ทับ เป็นพระอมตะเถราจารย์ ที่พระเกจิ ร่วมสมัยยกย่องว่าเป็น พระวิปัสสนาจารย์ชั้นเยี่ยม ชํานาญในพระเวทวิทยาคม เชี่ยวชาญการเล่นแร่แปรธาตุ กล่าว กันว่า ท่านเป็นผู้คิดค้นสูตรผสมเนื้อโลหะสร้างพระเครื่อง ร่วมกับหลวงปู่จัน วัดโมลีฯ ผู้สร้าง พระปิดตาแร่บางไผ่ และ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) (ขณะดํารงสมณศักดิ์พระธรรมโกษาจารย์) อีกทั้งยังแสดงฝีมือเชิงช่างที่สูงส่งด้วยพุทธศิลป์ โดยการนําอักขระเลขยันต์มาจัดวางเป็นเส้นศิลป์บนองค์ พระปิดตา ได้อย่างลงตัว งดงาม รูปทรงเดียวกัน แต่ลายยันต์หลาก หลายไม่ซํ้า พระปิดตา พระครูทับ นับวันมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากหลักแสนเป็นหลักล้าน ยิ่งแชมป์ออฟ เดอะ แชมป์ อย่างนี้ ราคาสุดซอยแล้วยังทะลุซอยนั้นออกซอยโน้น
เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ อยุธยา เนื้อทองแดง กะไหล่ทอง ของเด่น อยุธยา.
เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ 2518 หลวงพ่อแฉล้ม วัดโพธิ์บางคล้า ฉะเชิงเทรา.
สุดท้ายคือ พระพุทธรูปบูชาปางลีลา 25 พุทธศตวรรษ รุ่นแรก พ.ศ.2500 ขนาดความสูง 13 นิ้ว ตั้งแต่ พระพุทธศาสนาถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย พิธีมหาพุทธาภิเษก พระ 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งจัด ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดย รัฐบาล เป็นเจ้าภาพ เป็นงาน สร้างพระเครื่อง ระดับชาติ ครั้งใหญ่สุด เพราะอาราธนาพระเกจิปลุกเสกจากทั่วประเทศ จํานวนสร้าง ครั้งแรก ไม่มาก ออกบูชาเดี๋ยวเดียวก็หมด พอพระเครื่องมีราคาสูง จึงสร้างเสริมด้วยแบบ พิมพ์เดิม ออกมาเป็นระยะ แต่ที่ได้รับความนิยมสูงมีราคา หลักแสน ต้องเป็น รุ่นแรก ที่มีเนื้อโลหะแห้งเก่าถึงอายุ ที่สําคัญ ใต้ฐาน ต้องมีอักษรไทย พัฒนช่าง ตอกกํากับ อย่างองค์นี้ของ ร้านต่อ ดวงวิชัย ศูนย์พระพันธุ์ทิพย์ ขอบอก
เข้า สนาม พระใหม่ ส่งท้ายเดือนมกรา มีมา 3 รุ่นดัง รายการแรก เปิดตัวมาก็เรียกเสียงกรี๊ดกว่าเป่านกหวีด เพราะเป็น พระหลวงปู่ทวด รุ่น อภิเมตตามหาโพธิสัตว์ ที่ นายก อบต. อุ๊–วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ (อุ๊ กรุงสยาม) ซึ่งกำลังทำ โครงการพุทธอุทยานมหาราชอยุธยา ได้ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ช่วยแนะนำออกแบบพิมพ์ และการวางองค์ประกอบลายเส้นให้เป็นเอกลักษณ์
จึงเป็น หลวงปู่ทวด ที่งดงามอลังการ และติดทำเนียบพระหลวงปู่ทวดรุ่นยอดนิยมทันที เพราะงดงามแปลกใหม่ มีมิติไม่เหมือนใคร และเป็นงานที่ละเอียดมาก จึงต้องใช้มาตรฐานของแพรนด้า จิวเวลรี่ ซึ่งมีเครื่องมือทันสมัยที่สุด เพื่อให้ได้งานศิลป์ระดับมาสเตอร์พีซของวงการพระเครื่องใหม่ ที่ เสี่ยอุ๊ บอกว่า ทำยากสุดๆ--สอบถามบูชาที่โครงการหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ อ.มหาราช อยุธยา
พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่น 432 ปีชาตกาล.
พระหลวงพ่อทวด คงครองสนามพระใหม่ต่อ เพราะอีกรายการก็เป็น หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปี นี้ เป็นปีครบรอบกำเนิด 432 ปี ของท่าน ซึ่งเกิดเมื่อ 15 มีนาคม 2125 จังหวัดปัตตานี โดยผู้ว่าฯ วิทยา พานิชพงศ์ จึงจัดสร้าง หลวงพ่อทวด รุ่น 432 ปีชาตกาล เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้กำหนดพิธีกรรมอย่างเข้มขลัง สอดคล้องกับวาระพิเศษ คือ พิธีบวงสรวง 3 วาระ 3 สถานที่ คือ 1. สถานที่เกิดและฝังรก ที่สำนักสงฆ์ต้นเลียบ 2. สถานที่เกิดสมณเพศ ตำบลท่าแพ นครศรีฯ 3. สถานที่เกิดเป็นพระอรหันต์ ตำบลช้างให้ โคกโพธิ์ ปัตตานี และจัดพิธีมหาพุทธาภิเษก 15 มี.ค.นี้ ณ ศาลหลักเมืองปัตตานี โดยพระเกจิ อาจารย์สายหลวงพ่อทวด และสายใต้ รุ่น 432 ปีชาตกาล พิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ คือ เป็น เหรียญเสมาหน้าเลื่อน มี 4 พิมพ์ เช่นพิมพ์เสมาหน้าเลื่อน หลังอาจารย์ทิม (บล็อก 2 จุด รัดประคดเต็ม) และ พิมพ์เสมาหน้าเลื่อน หลังอาจารย์ทิม (บล็อก 2 จุด รัดประคตข้างเดียว) มีเนื้อทองคำ เงินหน้าทอง 2 หน้า เงินลงยา เหลือง แดง ธงชาติ เงินนวะ ทองแดงชุบทองลงยา อัลปาก้า ฯลฯ เปิดตัวไม่กี่วัน บางเนื้อหมดไปแล้ว เพราะสร้างไม่มากรายได้เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์สนับสนุนป้องกันการก่อเหตุ ร้ายในพื้นที่ภาคใต้และสมทบกองทุน หลวงพ่อทวดจตุคามปัตตานี
เทพ 4 หู 5 ตา และม้าปีนักษัตร หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก.
สุดท้ายเป็นเครื่องรางของขลังรุ่นดัง หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก คือ เทพ 4 หู5 ตา ซึ่งเป็นความเชื่อโบราณของชาวเหนือ ว่าเป็นพระอินทร์แปลงกายลงมาให้โชคลาภ กินถ่านไฟแดงๆ แล้วถ่ายเป็นก้อนทอง รูป ลักษณ์ พระอินทร์แปลง บางตำนานว่า ตัวดำต่ำอ้วน ขนยาว มี 4 หู 5 ตา บางตำราว่าคล้ายลิง มี 4 หู 5 ตา นั่งบนกองทอง เพราะกินไปถ่ายไปเป็นก้อนทอง--ที่มักจะสร้าง คือลักษณะคล้ายลิง
ซึ่ง หลวงปู่แขก จัดสร้างได้สวยมาก และ 4 หู 5 ตา เป็นปริศนาธรรม คือ เบญจศีล เบญจธรรม และหัวใจเศรษฐี คือ อุ อา กะ สะ และหัวใจธาตุ 4 นะ มะ พะ ทะ ดินน้ำลมไฟ จัดสร้างแบบบูชา 2 นิ้ว มีเคล็ดลับให้วางบูชาตรง ตี่จู้ (เจ้าที่ในบ้าน) จะได้ร่ำรวย และแบบบูชาติดตัว อีกรายการ เป็น ม้านำโชค ตามความเชื่อว่า ปีนักษัตรใดให้พกพาสัตว์มงคลปีนั้นๆ เพื่อขอโชคลาภ เพราะม้าเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ การเดินทางฯ มีความสง่าองอาจ มีเมตตามหานิยม การไปมาหาสู่ ชัยชนะ นำโชคลาภ และ ม้ายังเป็นสัตว์เทพยดานพเคราะห์ประจำวันจันทร์ จึงควรตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวด อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา15 จบ จะส่งให้มีเมตตามหานิยม ติดต่อการใดก็สำเร็จ
ลา ไปติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งล่วงหน้า ด้วยเรื่องเศร้าของ เสี่ยพิชัย เจ้าของร้านทองพุทธมณฑล ซึ่งนอกจากซื้อขาย ยังรับจํานําทองด้วย.....n ตอนปีใหม่ เกิดภาวะปลอดเมีย เพราะเมียไปเที่ยวเมืองนอก เสี่ยพิชัย ก็เลยเอาของที่รับจํานําไว้มาตรวจสอบทําบัญชี ก็พบ พระสมเด็จ ในตลับทอง ห่อกระดาษเขียนบอกวันเวลา
ซึ่งเลยกําหนดไถ่คืนมากว่า 2 ปีแล้ว ไม่รู้ลืมหลงรอดมายังไง พลิกดูก็ไม่มีชื่อผู้จํานำ มีแต่ตัวเลข 20,000 ก็เข้าใจว่าเป็นราคารับจํานํา เสี่ยพิชัย ก็ดีใจ เพราะแค่ตลับทองก็กําไรแล้ว แต่สงสัยว่า พระแท้ หรือเปล่า จึงให้ นายสมใจ ลูกน้องเอาพระเครื่องไปส่งประกวด ปรากฏติดรางวัลชมเชย เพราะพระเครื่องมีซ่อม แต่มีกรรมการขอซื้อ สองแสน พอ นายสมใจ โทร.มาบอกว่ามีคนขอเช่าสองแสน เสี่ยพิชัย ก็เป็นปลื้ม บอก นายสมใจ ว่า ต้องให้ได้มากที่สุดไว้ก่อน บอกเขาเลยว่า ไม่ได้สามแสนไม่ขาย นายสมใจ ก็ย้ำ ตกลงขาย สามแสนใช่ไหม เสี่ยพิชัย บอกเออ--แค่สองชั่วโมง นายสมใจ ก็นําเงินสด สามแสนมาให้นายด้วยความดีใจ
เสี่ย พิชัย ยิ้มแป้น เพราะหักทุนสองหมื่นคืนเข้าบัญชีร้านที่เมียคุมแล้ว ยังเหลือเงินเพียบ จึงสอน นายสมใจ ว่าค้าขายต้องมีชั้นเชิง ต่อรองให้เป็น และรู้จักโก่งราคา เห็นไหม รับจำนำมาแค่สองหมื่น ขายได้ตั้งสามแสน--สอนแล้ว ก็นับเงินหนึ่งหมื่นยื่นให้ นายสมใจ เพื่อปิดปาก อย่าบอกอาซ้อนะ. แต่ นายสมใจ เกิดหยิ่งขึ้นมากะทันหัน ไม่รับวุ้ย บอกว่าสบายใจได้ความลับไม่รั่วแน่ เพราะผมขอลาออก เสี่ย พิชัย ก็ตกใจ ลาออกทำไม จะไปทำอะไร นายสมใจ บอกหน้าตาเฉยว่าจะกลับไปเปิดร้านขายของที่บ้าน เพราะผมเอาพระเสี่ยไปขายอีกคน ได้มา ล้านห้า หัก สามแสน ที่เสี่ยโก่งราคาแล้ว เหลืออีก ล้านสอง เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น