สนามพระ 09/09/55

สนามพระ 09/09/55

เหรียญระฆังหลังค้อน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดระฆังโฆสิตาราม ของนันต์ ท่าพระจันทร์

เข้า สนามพระวิภาวดี ยุค แพงเว่อร์ ใน วันที่ 9 เดือน 9 ก็ประเดิมชมตลาดกันด้วย เหรียญระฆังหลังค้อน (ห่วงเชื่อม) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม กทม. ซึ่งหายากดีนัก และบางคนเรียกว่า พระสมเด็จวัดระฆังหลังค้อน เพราะท่านผู้สร้างเป็นชั้น สมเด็จ

วัน ก่อนเพิ่งลงองค์สวยมากของ เสี่ยหมู ราชดำริ เจมส์ ไป ว่าใครมีอีกก็ส่งมาแบ่งๆกันดู ท่านผู้ชมจะได้เปิดหูเปิดตา เผื่อไปเจอในเชี่ยนหมากเมียหลวงรุ่นแรก จะได้รู้ว่า ของดี--วันนี้ก็เลยมีตามมาอีกองค์ จาก เสี่ยนันต์ ท่าพระจันทร์

เหรียญเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบ เนื้อทองคํา ของท่านวัฒนพล ไชยมณี

พระ สร้างไว้เป็นสองวาระ ครั้งแรก เททองโบราณเมื่อปี พ.ศ.2462 เพื่อมอบสมนาคุณกับผู้บริจาคทรัพย์บูรณะพระอุโบสถ โดยมีพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงแห่งยุค อาทิ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ หลวงพ่อเลียบ วัดเลา หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ฯลฯ เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกแน่นพระอุโบสถ

เล่าอีกรอบก็ได้ถ้าไม่เบื่อ ที่เรียก “พระวัดระฆังฯหลังค้อน” เพราะวิธีการเทหล่อพระเนื้อโลหะแบบโบราณ เมื่อเทโลหะเข้าแม่พิมพ์จนเนื้อแห้งดีแล้ว จะมีการตัดแกนพระด้านบนด้านล่าง แล้วต้องเอา สิ่ว งัดข้าง เอาค้อนมาทุบหลังพระ ให้หลุดออกจากเบ้า พระทุกองค์จึงมีรอยค้อนทุบให้เห็นที่ด้านหลังองค์พระ ด้านข้างจะมี รอยสิ่วงัด

ต่างจากพระรุ่น 2 ที่ท่านทําพิธีสร้างราว พ.ศ.2482-83 เพื่อแจกทหารประชาชนตอนสงครามอินโดจีน ซึ่งสร้างด้วยวิธี เข้าช่อต่อชนวน โดยใช้แบบพิมพ์เดิม หลังพระจะไม่มีรอยค้อนทุบ แต่จะมี รอยตัดชนวน ที่ขอบด้านล่างองค์พระ และขอบข้างจะมีรอยแต่งตะไบมาแทนรอยสิ่ว ให้เป็นจุดสังเกตแยกแยะ ถ้าเล่นหาต้องรู้จักแยกรุ่น เพราะราคาต่างกันอยู่พอควร รุ่นแรกหลักหมื่นกลางๆ รุ่นหลังหลักพันปลายๆขึ้นหมื่นต้นๆ (ถ้าสวยจริง)-สำหรับองค์นี้ ดูรูปแล้วรู้ว่าแท้ แต่ไม่ได้บอกมาว่าเป็นรุ่นไหน

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดใหม่อมตรส กทม.

องค์ที่สองคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ กรุวัดใหม่อมตรส กทม.

ภาพรวม องค์นี้เป็นพระสวย สภาพเรียบร้อย จุดเด่นอยู่ที่ร่องรอยการตัดขอบ ที่เซียนพระสมเด็จเชื่อว่าเกิดจากการตัดขอบด้านหน้าไปด้านหลัง ทําให้มีเนื้อปลิ้นขึ้นรอบขอบด้านหน้า ถือเป็นเอกลักษณ์และจุดสำคัญในการชี้เก๊-แท้ ของพระกรุนี้

พระสภาพ สวยเด้งแบบนี้ เข้าสนามทีไร แฟนคลับสีกาอ่าง ก็ถามกันตรึมว่าเท่าหล่าย เลยต้องบอก หั่งเช้ง กันไว้เลยว่า อยู่ระหว่าง 3–4 ล้าน--ซึ่งเป็นราคา พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่กําลังซื้อง่ายขายคล่อง

องค์ที่สามคือ พระกรุเก่าเก๋า พระนาคปรก กรุป่าไม้แดง ซึ่งแตกกรุออกมาที่ บางระจัน สิงห์บุรี เมื่อ พ.ศ.2500 ลักษณะเป็นพระศิลปะลพบุรี เนื้อตะกั่วสนิมแดง ปางนาคปรก 7 เศียร ประทับเหนือเส้นขนดหาง 2 ชั้น รองรับด้วยกลีบบัวอีกหนึ่งชั้น

พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลังตะกรุดสาริกา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง

จํานวนพระที่พบมีน้อยมั่ก นับองค์สมบูรณ์ได้แค่หลักสิบ คนมีจึงหวงเท่าน้องสาวเมีย ยิ่งมีประสบการณ์ด้านคงกระพันชาตรี จึงยิ่งมีคนอยากได้ พระเลยแพง และแทบจะไม่มีเข้าสนาม เพราะเศรษฐีเมืองสิงห์นิมนต์ไปซะหมด องค์นี้ก็เหมือนกัน กําลังจะหายจากวงการอีกองค์ เพราะ เสี่ยกีรติ ทัฬกิติวัฒน์ เพิ่งสอยไป

ตาม มาด้วย เหรียญพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล ข้างรัศมี หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท องค์สวยเนื้อจัด มี จาร ครบสูตร อย่างเหรียญนี้ของ จ่าเบิร์ด เพชรบุรี ร่ำลือกันว่าเป็นเหรียญ หลักล้าน ไปแล้ว พอถามยํ้าไปกับเซียนสายตรง ก็เล่นเอาข้าพเจ้างงไปเลย เมื่อหลายคนยืนยันว่า องค์แชมป์เพิ่งขายไปหยกๆ 3 ล้าน--อาทิตย์หน้าจะส่งภาพมาให้ชม

เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง 2515 บล็อกเอขาด เนื้อเงิน ย้อนยุค ของกํานันมานะ คงวุฒิปัญญา

แต่ ก็สมควรจะแพง เพราะ หลวงปู่ศุข เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีเกียรติคุณสูงส่ง และมีวิชาอาคมกล้าแข็งเพราะร่ำเรียนมาจากหลายอาจารย์ จนท่านกล่าวว่า ถ้าจะเอาบายศรีสำหรับยกครูมาซ้อนรวมกัน ก็จะสูงท่วมหลังช้าง (คนโบราณเวลาจะขอเป็นศิษย์เรียนวิชากับครูบาอาจารย์ท่านใด จะต้องมีการบูชาครู ตั้งเครื่องบายศรี ไม่ใช่แบบสมัยนี้ ที่การเรียนการสอน ยิ่งสอนพิเศษ ต้องแลกด้วยเงินเท่านั้น ไม่งั้นอย่าหวัง)

พุทธาคมของ หลวงปู่ศุข นั้นเข้มขลัง จน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ไปฝากองค์เป็นศิษย์

สำหรับ พระพิมพ์สี่เหลี่ยม พระพุทธ ถือเป็น พิมพ์เอกลักษณ์ ของ หลวงปู่ศุข ซึ่งมีการสร้างหลายวาระ รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกะทัดรัดเหมือนกัน มี พระพุทธ ด้านหน้า แต่มีรายละเอียดแยกย่อยหลายพิมพ์ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อโลหะผสม เนื้อชิน และมีเนื้อตะกั่วบ้าง-แบบองค์วันนี้ เป็นพิมพ์นิยม สภาพสวยคมชัด ด้านหลังมีรอยจาร เฑาะขัดสมาธิ ซึ่งบางองค์ก็ไม่มี

พระนาคปรก กรุป่าไม้แดง บางระจัน สิงห์บุรี ของกีรติ ทัฬกิติวัฒน์

สมัย หลวงปู่ศุข ยังมีชีวิต ท่านสร้างพระพิมพ์พระพุทธแจกอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งสร้างให้ผู้ร่วมทำบุญ งานผ้าป่าร้อยพุ่ม โดยตั้งองค์ผ้าป่าบนเรือกระแชง ใช้เรือพายลากทวนกระแสน้ำขึ้นไปถึง อ.มโนรมย์ ชัยนาท แล้วล่องกลับมาวัดปากคลองฯ แล้วแจกพระให้คนที่ทำบุญองค์ ละ 1 บาท

จำได้ว่าเมื่อ พ.ศ.2526 มี พระพิมพ์ประภามณฑล หลวงปู่ศุข แตกกรุที่เจดีย์วัดโคกหม้อ อ.ชุมแสง นครสวรรค์ ทางวัดตั้งราคาไว้ 5 พันถึง 2 หมื่นบาท ซึ่งแพงมาก พระจึงถูกดองเค็มอยู่หลายปีกว่าจะหมด ซึ่งราคาเมื่อปี 2530 แพงสุดๆก็ 3-4 หมื่นบาท--ก็เลยบอกว่า งง เพราะห่างมาแค่ 25 ปี ราคาขึ้นไป 3 ล้านเชียวเรอะ

เล่ากันว่า ตอนหลวงปู่จะมรณภาพ ท่านรู้ตัวล่วงหน้า ก่อนจะละสังขาร ท่านจึงให้หลวงพ่อปลื้ม พระน้องชายให้ไปหาเทียนหนัก 1 บาท มา 5 แท่ง กรวย 10 กรวยไว้ให้พร้อม เมื่อจะถึงเวลาละสังขาร ท่านก็สั่งให้หลวงพ่อปลื้มจุดเทียนไว้หัวนอน แล้วหลับตามรณภาพไปอย่างสงบ.

เหรียญพระพุทธ พิมพ์ประภามณฑล ข้างรัศมี หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท ของจ่าเบิร์ด เพชรบุรี

ลำดับ ต่อไปขอเสนอ พระขุนแผนผงพรายกุมาร หลังตะกรุดสาริกา หลวงปู่ทิม อสิรโก วัดละหารไร่ ระยอง พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณผสมผงพรายกุมาร (อัฐิธาตุทารก ที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร) ด้านหลังฝังตะกรุด สาริกา แผ่นโลหะลงอักขระหัวใจพระคาถา พุทโธ ม้วนเป็นตะกรุดคู่ขนาดจิ๋ว ฝังไว้ในเนื้อพระด้านหลัง แสดงอานุภาพด้านเมตตามหาลาภเด่นชัด มีชื่อเสียงมาก ทําให้ราคาค่าความนิยมพุ่งสูงถึง หลักแสน

ตามมาด้วย เหรียญเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบ เนื้อทองคํา ของ ท่านวัฒนพล ไชยมณี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาล จ.ระยอง

นิยมเรียกกันว่า เหรียญมหาราช สร้างเป็นเหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ เมื่อปี 2506 ลักษณะเป็นเหรียญทรงเสมาด้านหน้า เป็นรูปจําลององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 หันพระพักตร์ด้านซ้าย ทรงเครื่องทหารมหาดเล็กเต็มยศ (ครึ่งองค์) ใต้พระรูปมีพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ด้านหลังเป็นตราสัญลักษณ์พระบรมราชจักรีวงศ์ มีข้อความว่า “อนุสรณ์มหาราช” ด้านล่างมีข้อความเฉลิมพระ ชนมพรรษา 3 รอบ ราคาค่าความนิยมปัจจุบัน ประมาณครึ่งล้าน

เหรียญหล่อเจ้าสัวสยาม และเหรียญพระพุทธชินราชเสมา หลังยันต์ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม

ที่ ว่ามา แต่ละองค์เป็นแสนเป็นล้าน ต่อไปขอลดราคา เอาใจแฟนคลับที่เอื้อมไม่ถึงกันด้วย เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง 2515 บล็อกเอขาด เนื้อเงิน ซึ่งเป็น เหรียญย้อนยุค สร้างเพื่อทดแทนเหรียญรุ่นแรก ที่มีราคาเป็นแสนเป็นล้าน

เหรียญนี้ถือเป็น เหรียญรุ่นสอง สร้างออกที่วัด มีสุดยอดพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกเพียบ จึงเป็นเหรียญขวัญใจคนจนในปัจจุบัน ที่หากันได้ในราคาหลักพันปลายๆ และถึงหมื่นต้นๆถ้าสวยเยี่ยมอย่างอันนี้ของ กํานันมานะ คงวุฒิปัญญา

แต่ ถ้ายังมีไม่ถึงหมื่น ก็ขอเชิญญาติโยมเดินไป สนามพระใหม่ เพราะมีพระดีพิธีใหญ่ให้เลือกหาบูชาหลายรุ่น รายการแรกคือ เหรียญเจ้าสัว ญสส. บวรญาณรังสี ซึ่งจัดสร้างในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งรัตนโกสินทร์ ซึ่งจะเจริญพรรษาบารมีครบ 99 ชันษา ในวันที่ 3 ตุลาคม ปี 2555 ถือเป็นพระสังฆราชที่มีพระชนมายุยืนยาวที่สุด

เหรียญเจ้าสัว มีความนิยม เพราะมีมงคลนามเจ้าสัว ที่ให้คุณแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ตัวเหรียญออกแบบสวยงามเป็นเอก– ลักษณ์ จัดทำเป็นชุด เนื้อทองคำ นาก 99 ชุด ชุดกรรมการเป็นเนื้อเงิน นวโลหะ ทองแดง 1,199 ชุด และเหรียญฝาบาตร กับครอบน้ำมนต์ โดยจะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ 26 ก.ย.นี้ ณ พระอุโบสถวัดบวรฯ และให้รับวัตถุมงคลได้ในวันประสูติ 3 ต.ค.

พระพุทธชินราช รุ่นมหาจักรพรรดิ พิธียิ่งใหญ่ในรอบ 40 ปี

ราย ได้จะนำไปสร้างพระอุโบสถดิน ให้วัดที่ขออนุเคราะห์มาให้แล้วเสร็จ และสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าพุทธนิมิตรสถิตมหาสีมาราม บ้านห้วยขวาง อ.โคกศรีสุพรรณ สกลนคร ซึ่ง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อ 24 เม.ย.

เปิดให้จองบูชาเพียง 15 วันเพราะสร้างน้อย สอบถามได้ที่สำนักเลขาฯ วัดบวรฯ 0-2281-2831-2, 08-3914-1566, 08-1552-9967

อีกรายการเป็นของวัดต้นตำรับเหรียญเจ้าสัว คือ เหรียญหล่อเจ้าสัวสยาม และ เหรียญพระพุทธชินราชเสมา หลังยันต์ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม

เหรียญ เจ้าสัวที่หลวงปู่บุญสร้างไว้ ตอนนี้แพงมาก เนื้อเงิน หลักแสน เนื้อทองแดง หลักหมื่นกลางๆถึงหลักแสน และยิ่งจะแพงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเหรียญพระเสมาพุทธชินราช หลวงปู่บุญ

เมื่อมีการจัดสร้างเหรียญหล่อเจ้าสัวหลวงปู่บุญ รุ่นเจ้าสัวสยาม และพระพุทธชินราชเสมา หลังยันต์ ตามตำรับโบราณ ทั้งการหล่อและการเชื่อมหูแบบ ห่วงเชื่อมโบราณ ซึ่งไม่มีใครทำแล้วในยุคนี้ จึงสร้างความสนใจมาก เพราะท่านผู้สร้างคือ พระอาจารย์สัญญา (คง) เป็นศิษย์สายตรงของ หลวงปู่เพิ่ม และ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งสืบทอดวิทยาคมมาจาก หลวงปู่บุญ

เหรียญเจ้าสัว ญสส. บวรญาณรังสี ฉลองพระชนม์ 99 ชันษา สมเด็จพระสังฆราช

พิธี พุทธาภิเษก มีพระคณาจารย์ชื่อดังมากมายหลายรูป เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ หลวงพ่อโฉม วัดตำหนัก หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด ฯลฯ จึงมีคนไปจองล้นหลาม เพราะเชื่อมั่นว่ารุ่นนี้มีตำรับวิชาของ หลวงปู่บุญแบบจัดเต็ม และยังได้ทำบุญบูรณะเสนาสนะในวัดกลาง–บางแก้วด้วย--บูชาได้ที่ 08-3084-5312, 08-5071-9044, 08-9197-2239

สุดท้าย สำหรับคนที่มองหาพระบูชางามๆพิธีใหญ่ๆ ต้องเป็น พระพุทธ-ชินราช รุ่น มหาจักรพรรดิ ซึ่งเข้าพิธีพุทธาภิเษกมหาจักรพรรดิ 2 วัน 2 คืน ซึ่งถือเป็น พิธีมหาจักรพรรดิครั้งใหญ่สุด หลังจากครั้งแรกปี 2515--ตอนนี้ พระบูชา เนื้อนวโลหะหมดแล้ว เนื้อสัมฤทธิ์มีอีก 50 องค์

พระบูชาพุทธชินราชรุ่นนี้ พระพักตร์งดงามเหมือนองค์จริงที่มีเมตตาบารมี ซุ้มเรือนแก้วปั้นแบบอย่างของจริง ที่ลายดอก 2 ด้านจะไม่เท่ากัน ซึ่งเชื่อว่าช่างโบราณแฝงความหมายบางอย่างไว้ และที่งดงามอลังการไม่เหมือนรุ่นอื่นคือ ฐานปั้น 6 ชั้น ซึ่งเหมือนต้นแบบ แกะลวดลายงามวิจิตรทุกดอก และมียักษา ยักษิณี อยู่ที่ฐาน เป็นมงคลด้านช่วยปกปัก รักษา และเรียกเงินเรียกทอง

พิธีพุทธาภิเษกมหาจักรพรรดิครั้งนี้ คนพิษณุโลกยังกล่าวถึงกันว่า มีพระเกจิอาจารย์ ระดับประเทศมาชุมนุมกันมากที่สุดรวมแล้วถึง 200 รูป พระเกจิอาจารย์ก็แถวหน้าทั้งนั้น เช่น หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ เทพเจ้าแห่งเมืองสองแคว หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร หลวงพ่อสรวง วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ เทพเจ้าแห่งไก่ ลพบุรี หลวงพ่อเพี้ยน พระครูภาวนาโสภณ หลวงพ่อติ๋ว พระมหาสุรศักดิ์ โดยมี พระอาจารย์ไพรินทร์ เจ้าพิธีชื่อดัง กำกับแบบโบราณทุกอย่าง และที่เชื่อแน่ว่าศักดิ์สิทธิ์ เพราะเกิด พระอาทิตย์ทรงกลด ถึง 3 ครั้งในระหว่างพิธี เป็นที่ฮือฮา--สอบถามบูชาได้ที่ 08-0080-1314, 08-1822-9419, 0-2467-5082

ข่าวบริการอื่นๆมาจาก รศ.นิพัทธ์ จิตรประสงค์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสำหรับนักบริหาร มหาวิทยาลัยศรีปทุม ขอเชิญผู้สนใจฟังบรรยายพิเศษเรื่อง พระเครื่องเรื่องที่น่าลงทุน ที่วิทยาคารพญาไท ตึก SM Tower (ตรงข้ามช่อง 5 สนามเป้า พหลโยธิน) 17 ก.ย.เวลา 17.30-20.30 น.

โดย อ.นิพัทธ์ ซึ่งเป็นกูรูวงการพระเหมือนกัน และ อาจารย์เฮียตี๋-เหล้า–ศุภชัย เรืองสรรงามศิริ อุปนายกสมาคม พระเครื่องฯ และประธานชมรมพระ เครื่องท่าพระจันทร์ จะแนะนำว่า ลงทุนกับพระยังไงให้รวย--สำรองที่นั่งฟังฟรี ได้ที่ 0-2298-0181-3 (ที่นั่งมีจำกัด)

เรื่องลาฮาเฮ มาจากอยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน เล่าถึง ลุงพยนต์ ซึ่งเป็นครูยา ปลูกสมุนไพรรับรักษาโรคทั่วไป ไม่ตายก็อยู่ ไม่หายก็ตาย ก็เลี้ยงลูกเมียมาได้ สุขแต่ไม่สบายเท่าไหร่ เพราะรายได้ไม่ทำให้ร่ำรวย

แต่ตอนแกไปเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อที่ให้ตำรา ยาโบราณ พอเรียนจบ พระอาจารย์ก็ควักพระสมเด็จให้มาองค์ ไว้ไปบูชาดูต่างหน้า และสั่งว่าให้รักษาไว้กับตัวจนกว่าจะตาย แกก็รับปาก และรักษาสัญญามาจนเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งก็อายุ 85 ขวบแล้ว

ทีนี้มีอยู่วัน แกเผลอไปให้เซียนพระรู้ว่ามี พระสมเด็จวัดระฆัง และสวยด้วย ก็เลยถูกตาม ให้ราคามาตั้งแต่หลักแสน แกก็ไม่ขาย แต่เซียนก็ไม่ยอมแพ้ เทียวมา ตาหลอด มาทีไรก็ขยับราคาให้ จนปลายปีก่อน ให้ราคา 2 ล้าน 5 แต่แกก็ไม่ยอมขาย

ลูกเมียเลยงอนป่อง เพราะอยากได้บ้านใหม่ แทนหลังเดิมที่น้ำท่วมจะพังมิพังแหล่ แต่ ลุงพยนต์ ก็ไม่ยอมขาย ยืนยันว่ารับปากอาจารย์ไว้

แต่เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา เพื่อนบ้านก็แตกตื่น เมื่อจู่ๆ ลุงพยนต์ ลงเสาเอกปลูกบ้านใหม่ใหญ่เบ้อเริ่ม--เพราะแกตัดสินใจให้ลูกสาวเอา พระสมเด็จ ขาย เพื่อให้ครอบครัวแฮปปี้มีความสุข พลอยให้แกสุขไปด้วยเพราะทุกคนรุมเอาใจ

พอย้ายขึ้นบ้านใหม่ ลูกสาวก็ถามพ่อว่า พ่อไม่กลัวเสียคำพูดกับอาจารย์แล้วใช่ไหมถึงได้ยอมขายพระ ลุงยนต์ ตอบว่า กูก็ไม่ได้ถึงกะเสียคำพูด เพราะกูไม่ได้ขายเอง  พวกมึงเป็นคนเอาไปขาย แล้วกูก็จุดธูปบอกอาจารย์แล้ว อาจารย์คงไม่ว่า

ลูกถามว่า พ่อบอกอาจารย์ว่ายังไง ลุงยนต์ บอกว่า ก็บอกว่าขอโทษจริงๆที่ต้องผิดสัญญา เพราะตอนนี้อายุจะ 90 แล้ว เริ่มออดๆแอดๆ ไม่ค่อยมีภูมิต้านทาน เลยทนราคาที่เซียนขอซื้อ 10 ล้านไม่ไหว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง

สนามพระเครื่อง