สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่23/06/56

สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่23/06/56

พระเพชรหลีก เจ้าคุณทักษิณคณิตศร (สาย) วัดอินทาราม กรุงเทพฯ.

เข้า สนามพระเครื่องฯวันนี้ ถ้าจะไม่เขียนถึง อู๊ด–สิทธิกร บุญฉิม ที่เดินเฉิบออกจากคุกแล้ว ก็จะหาว่าไม่ทันสมัย แต่ส่วนตัวข้าพเจ้าไม่ได้สนใจนัก เพราะสไตล์ของ นักสร้างพระเครื่องรายนี้มีแค่โฆษณาให้ตูมตาม มีแต่พวก จิตอ่อน แตกตื่นไปแย่งเช่ากัน--แต่สุดท้ายก็ตาสว่าง เพราะทุกวันนี้ พระเครื่องเสี่ยอู๊ด ไม่มีใครแยแส .....

แถมมาตอนนี้ การสร้างพระเครื่อง เน้นกันที่ คุณภาพ สร้างจำนวนจำกัดตาม จริง ไม่มีเสริม และ คนสร้าง ต้องเป็น ผู้ที่สังคมให้ความนับถือศรัทธา--จึงทำให้การออกมาของนักสร้างพระเครื่องรายนี้ ไม่มีใครตื่นเต้น จบ.....

เข้าไปดูพระเครื่อง ที่ผู้สร้างล้วนแล้วแต่มีวัตรปฏิบัติปฏิปทาเป็นที่เชื่อถือศรัทธาอย่างสูง จนทำให้พระของท่านยังคงคุณค่ามาเป็นร้อยปี อย่าง พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ (เส้นด้าย) กรุวัดใหม่อมตรส องค์นี้.....

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ (เส้น ด้าย) กรุวัดใหม่อมตรส ของเซ้ง มณเฑียร.

พิมพ์ ใหญ่ (เส้นด้าย) เป็น พระพิมพ์ใหญ่ ที่มีเส้นศิลป์บอบบางที่สุด แต่ยังคงความผึ่งผายสง่างามอย่างพระพิมพ์ใหญ่ องค์นี้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ผิวเนื้อหน้า-หลัง ผ่านการลอกคราบกรุและการสัมผัสใช้ให้เห็น เลยบอบชํ้าพอสมควร ขอบองค์สองข้างมีรอยยุบของเนื้อที่เกิดจากการหยิบจับองค์พระ (ขณะเนื้อยังเปียก) แต่ทำให้กลายเป็น จุดสำคัญหนึ่ง ในการพิจารณา พระเนื้อผง ที่ต้องมีการหยิบจับองค์พระออกจากแม่พิมพ์หรือขณะพลิกองค์พระเวลาตาก แห้ง--องค์นี้มีรอยยุบเด่นเป็นเอกลักษณ์ ดูดีมีเสน่ห์เช่าน่าใช้สมราคา 5 ล้าน ที่ เสี่ยเซ้ง มณเฑียร ตั้งไว้รอเจ้าของตัวจริง รวยจริง .....

องค์ ที่สอง เป็นพระกรุพระเก่า พระท่ากระดาน กรุเก่า กาญจนบุรี เนื้อตะกั่ว สนิมแดง พุทธศิลปสมัยอู่ทอง (ยุคต้น) ที่ชื่อลือเลื่องด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ด้านคงกระพันชาตรี จนขนานนามว่า ขุนศึกแห่งลุ่มนํ้าแคว.....

มีหลักฐานว่าค้นพบครั้ง แรกราวปี พ.ศ.2460 ที่กรุถํ้าลั่นทม บนเขานอกเขต ต.ท่ากระดาน พร้อมหลักฐานเศษเนื้อตะกั่ว พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์สร้างพระ พอให้สันนิษฐานได้ว่าเป็นแหล่งผลิต.....

ต่อมาในปี พ.ศ.2495-2496 ได้พบพระพิมพ์นี้ในกรุพระวัดเหนือ วัดกลาง วัดใต้ ซึ่งอยู่ในเขต ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ อีกหลายร้อยองค์ พระเกือบทั้งกรุ มีสนิมแดงเกิดจากเนื้อในไขขาวขึ้นคลุมอยู่ชั้นนอก ปิดทองมาแต่ในกรุ แบบองค์ในภาพนี้ของ เสี่ยอ้วน ลอยฟ้า ที่ถือเป็นองค์ที่สมบูรณ์งดงามระดับแถวหน้า.....

สำหรับ วัดเหนือ (วัดเทวสังฆาราม) นั้น สมัยรัชกาลที่ 3 โปรดให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2374 ซึ่งมีการสร้างเมืองกาญจนบุรีที่ถูกพม่าเดินทัพผ่านทำลาย ก่อนบุกไปตีกรุงศรีอยุธยาในปี 2310.....

พระท่ากระดาน กรุเก่า กาญจนบุรี เนื้อตะกั่ว สนิมแดง ของ อ้วน ลอยฟ้า.

โดย ให้สร้างกำแพงเมืองกาญจนบุรี แบบก่ออิฐถือปูน และทรงสร้างวัดไว้ 5 วัด รวมทั้งวัดเหนือ วัดใต้ ต่อมาในสมัย ร.5 เสด็จประพาสไทรโยค ปี 2420 ได้เสด็จฯไป วัดเหนือ เห็นว่าพระอุโบสถชำรุดทรุดโทรม จึงโปรดให้สร้างใหม่ โดยใช้เงินส่วย และบริจาคพระราชทรัพย์ 10 ชั่ง ช่วยค่าก่อสร้าง และพระราชทานกัปปิยภัณฑ์ แก่พระภิกษุที่คุมการก่อสร้างองค์ละ 2 บาท .....

จาก ขุนศึกแห่งลุ่มนํ้าแคว ไปดู ราชินีแห่งพระเครื่อง คือ พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง กรุวัดนางพญา พิษณุโลก ของ เสี่ยเช็ง สุพรรณ เป็นพระหน้าเก่าของวงการ ที่คมชัดสวยเด่น ฟอร์มทรงได้สัดส่วน สีเนื้อเข้มขลัง เลยครองตำแหน่ง พระแชมป์ มาตลอด.....

พระนางพญา ถูกค้นพบเมื่อประมาณ พ.ศ.2444 ตอนที่ รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก เพราะมีการสร้างปะรำพิธีรับเสด็จ เมื่อคนงานขุดหลุมก็พบ พระนางพญา มากมาย.....

เจ้าอาวาสจึงนำขึ้นถวาย ร.5 และได้พระราชทานให้แก่ผู้ที่ตามเสด็จ ส่วนที่เหลือก็นำกลับกรุงเทพฯ ต่อมาจึงพบ พระนางพญา ที่วัดเลียบ (วัดราชบูรณะ) ในกรุงเทพฯ และที่ พระราชวังบวรมงคล (วังหน้า) กับที่ วัดสังขจาย ฝั่งธนบุรี และในปี พ.ศ.2479 มีผู้พบ พระนางพญา ที่วัด “อินทรวิหาร” บรรจุอยู่ในบาตรในเจดีย์องค์เล็ก.....

พระนางพญา ถูกค้นพบอีกเมื่อหลาย ครั้ง เพราะในปี พ.ศ. 2470 องค์พระเจดีย์ด้านตะวันออก ของ วัดนางพญา พังทลายลง เจ้าอาวาสได้ให้ชาวบ้านช่วยกันขนเอาเศษอิฐ เศษปูนซากเจดีย์ไปถมคูน้ำ .....

ที่ตรงนั้น ต่อมาได้กลายเป็นดงกล้วย พอมีสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2485 ชาวบ้านหนีบอมบ์ ไปหลบอยู่ในดงกล้วย และขุดหลุมหลบภัย จึงพบ พระนางพญา ที่ติดมากับซากเจดีย์.....

พระกริ่งก้นหนุมาน หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี ของ ร้านเต่าพระเครื่อง.

ส่วนครั้งสุดท้าย พบที่ “วัดราชบูรณะ” พิษณุโลก เมื่อมีการทำท่อระบายน้ำในวัดในประมาณปี2532.....

พิมพ์ เข่าตรง อยู่ในหมวด พระพิมพ์ใหญ่ แยกออกเป็น พิมพ์เข่าตรง กับพิมพ์เข่าตรง มือตก แต่ทุกพิมพ์ เป็นพระดินเผา เนื้อหยาบ เพราะมีเม็ดแร่เม็ดทรายปนอยู่ในเนื้อ เนื้อพระมีสีอิฐ เนื้อเขียว เนื้อดำ--ซึ่งถ้าเป็น เนื้อนาง ตัวเป็นๆ ขายไม่ออกเลยนะผิวแบบเนี้ยะ.....

ต่อ ไปเป็นพระยอดนิยม ที่มีกระแสมาแรง จน  สีกาอ่าง เอง ยังหาพระ ดีด้วยถูกด้วย ให้ผู้ใหญ่ไม่ได้ซะที คือ พระพิมพ์ทรงสัตว์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา ที่มีองค์พระประทับนั่งเหนือ รูปสัตว์ทรงคุณ 6 ชนิด หลักๆคือ ไก่ ครุฑ หนุมาน เม่น ปลา นก.....

ที่ยังแยกเป็นพิมพ์ย่อยๆได้อีก รวมเกือบ 20 พิมพ์ ให้สะสมบูชากันเพลิน พระกํากับด้วยอักขระยันต์ “มะอะอุ” อยู่ 2 ข้างองค์พระ ขอบด้านบนเจาะรูบรรจุผงพุทธคุณ “เกราะเพชร” ทุกองค์.....

หลวง พ่อสร้างแจก ตั้งแต่ราวปี พ.ศ.2463 จนถึงมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2481 จึงมีการนําพระที่เหลือบรรจุกรุไว้ พระที่พบในปัจจุบันจึงมีขนาดที่แตกต่างทั้งใหญ่ กลาง เล็ก เนื้อพระมีทั้งหยาบและละเอียด การเล่นหาจึงต้องพิจารณา พิมพ์พระ เนื้อผงที่บรรจุอยู่เป็นหลัก อย่างองค์นี้ เป็น พระพิมพ์ทรงปลากัด ของ เสี่ยทวีทรัพย์ ชอบพิมาย.....

องค์ต่อไป ขอเสนอ พระเพชรหลีก เจ้าคุณทักษิณคณิตศร (สาย) วัดอินทาราม ตลาดพลู บางยี่เรือ กรุงเทพฯ พระเครื่องผงดํา ตํารับเดียวกับพระผงดํา สมเด็จพระสังฆราช (แพ) บรรจุเมล็ดข้าวเปลือก (สมบูรณ์) ที่เหลือมาถึงคําข้าวในมือท่าน ซึ่งถือว่าเป็นเมล็ดข้าวที่มีเคล็ดเป็นของดีในตัวด้าน แคล้วคลาด.....

พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง กรุวัดนางพญา พิษณุโลก ของเช็ง สุพรรณ.

เพราะ เป็นข้าวเปลือกที่เหลือหลุดรอดจากการหุงต้ม ขัดสี มาได้ ด้านหลังจารอักขระพระคาถาหัวใจภัทรกัปป์ ด้วยก้านธูป เป็นพระเครื่องสกุลสูง พุทธคุณเข้มขลัง ที่ท่าน เจ้าคุณฯสาย เป็นเจ้าตํารับ มอบให้เฉพาะพระผู้ได้รับสมณศักดิ์ พระทักษิณคณิตศร เป็นผู้สืบทอดเท่านั้น มีชื่อเสียงเป็นพระยอดนิยมราคาหลักแสนในปัจจุบัน องค์แชมป์ในภาพนี้ ของ เสี่ยวิทวัช จันทนวงศ์.....

ตามมาด้วย พระกริ่งก้นหนุมาน หลวงพ่อแฉ่ง วัดศรีรัตนาราม  (บางพัง) อ.ปากเกร็ด นนทบุรี พระเกจิอาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน เป็นพระสหมิกธรรมของท่าน เจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) วัดสุทัศน์.....

หลวงพ่อแฉ่ง ได้รับอนุญาตให้สร้างพระกริ่งนี้ร่วมพิธีเมื่อปีพ.ศ. 2482-2483 โดย สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงเป็นประธานในพิธีเททองหล่อแบบโบราณ ณ วัดสุทัศนฯ จํานวนสร้าง 108 องค์ .....

ลักษณะเป็นพระกริ่งขนาดเขื่อง องค์สูงราว 4.1 ซม. ใต้ฐานมี รูปหนุมาน หล่อนูน ในตัว ปัจจุบันนับเป็น พระกริ่งตระกูลวัดสุทัศนฯ ชั้นศิษย์ ที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมสูง ที่สำคัญราคายังอยู่ที่ระหว่าง หลักแสนต้นถึงสองแสน แล้วแต่ความสวย อย่างองค์นี้ของ ร้านเต่า พระเครื่อง.....

เข้าสนาม พระใหม่ ที่รับรองว่าไม่มีรุ่นไหนที่เกี่ยวกับ อู๊ด–สิทธิกร เลย.....

รายการแรกคือ พระรุ่น  101  ปี  อาจารย์ทิม ซึ่งออกมาก็ตูมตาม เพราะปีที่แล้วออกรุ่น 100 ปี อาจารย์ทิม ไป ก็ไม่พอให้บูชา.....

พิมพ์ เด่นในรุ่น มี พิมพ์เตารีดใหญ่ เอ ตามที่ พระอาจารย์ทิม ได้จัดสร้างไว้ปี 2505 เป็นงานหล่อแบบโบราณ ด้านหลัง เป็น พระอาจารย์ทิมครึ่งองค์ อีกพิมพ์ คือ เตารีดใหญ่ปั๊ม หลังหนังสือ มี ท ย้อนยุคพระอาจารย์ทิมเหมือนกัน จัดสร้างหลายเนื้อเช่น เนื้อทองคำ นวะแก่ทอง เงิน นวะแก่เงิน อัลปาก้า สำริดผสมชนวนเก่า.....

พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา พิมพ์ทรงปลากัด ของ เสี่ยทวีทรัพย์ ชอบพิมาย

และ ในรุ่น 101 ปี ยังมีอีกหลายรูปแบบ คือ พระบูชา 9.9 นิ้ว และ 5.9 นิ้ว เป็นฐานบัวสองชั้น ใต้ฐานบรรจุเหรียญ ขนาด 5.9 นิ้ว ประทับบนบุษบก, พระกริ่งเฉลิมพล, พระหล่อหลวงพ่อทวดเลขใต้ฐานย้อนยุค บรรจุมวลสารเก่า ปี 2497, เหรียญหลวงพ่อทวดรูปไข่หน้าเลื่อน หล่อโบราณ ย้อนยุค, เหรียญพิมพ์เสมาหน้าเลื่อนโบราณย้อนยุค หลัง 101 อาจารย์ทิม, เหรียญเม็ดแตงโบราณย้อนยุคหลัง 101 ปี อาจารย์ทิม, และหลวงพ่อทวดเนื้อว่านดินกากยายักษ์พิมพ์โบราณย้อนยุค.....

พิธีบวง สรวงจัดไปเมื่อ 21 เม.ย. 56 ณ สถูปหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ โดยมี พระราชสิทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และจะมีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 15 ส.ค.นี้ ณ ศาลหลักเมือง ปัตตานี โดยพระเกจิอาจารย์สายใต้.....

รายได้จัดสร้าง สร้างอาคารปฏิบัติธรรม 101 ปี อาจารย์ทิม ให้วัดตานีนรสโมสร ซื้อที่ดินจัดสร้างหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ให้วัดหลักเมือง ปัตตานี และศูนย์พระเครื่องชั้นนำ.....

ขอย้ำอีกครั้งว่า พระหลวงพ่อทวด นี่ อินเทรนด์ ทุกยุคสมัยจริงๆ สร้างเมื่อไหร่ก็ได้รับความนิยม เพราะ พระใหม่ อีกสำนัก ก็เป็น พระหลวงพ่อทวด ที่พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ ต.ท่านา อ.กะปง พังงา จัดสร้างตามตำรา มหาเวทย์ มหายันต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเน้นที่มวลสาร และพิธี ซึ่งจะจัดถึง 4 วาระ.....

วาระแรก 6 ก.ค. ปลุกเสกเดี่ยว โดย อาจารย์หรีด ณ วัดป่าโมกข์ วาระที่ 2 พระเกจิสายเขาอ้อ ร่วมพิธีที่ ฉันทันต์บรรพต (เขาอ้อ) 20 ก.ค. วาระที่ 3 จัดพิธีพราหมณ์ สายเขาอ้อ (พิธีจันทร์เพ็ญ) 22 ก.ค. และวาระที่ 4 พุทธาภิเษกที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช 29 ก.ค. โดยพระเกจิสายใต้ 16 องค์ เพื่อหาปัจจัยช่วยสร้างกุฏิให้พระเณรของสำนักปฏิบัติธรรมเขาทูคาน ที่ อ.สิชล นครศรีฯ.....

นัก เล่นพระส่วนกลางอาจไม่คุ้นเคยชื่อ อาจารย์หรีด แต่จะบอกให้ว่า ท่านเป็นจอมพุทธาคมชื่อดังของพังงาและสายใต้ เพราะได้วิชามาจาก หลวงพ่อนวล  วัดไส้หร้า  และ หลวงพ่อแดง วัดภูเขาหลัก และ พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ นครศรีฯ.....

สมัยที่ ดร.ไมตรี บุญสูง ยังอยู่ จะนิมนต์  อาจารย์หรีด ไปปลุกเสกพระเสมอ และที่ยืนยันว่ามีพุทธาคมเข้มขลังแก่กล้าคือ ชินพร สุขสถิตย์ ซึ่งสร้างพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ก็นิมนต์ พระอาจารย์หรีด ไปเสกพระทุกครั้ง ซึ่งย่อมยืนยันว่าเก่งจริง.....

พระพิมพ์เตารีด รุ่น 101 ปี อาจารย์ทิม วัดช้างให้ ปัตตานี.

ลา กันด้วย เรื่องฮาๆของ ป้ากําไล วัย 68 ขวบ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ อ่างทอง ซึ่งเป็นคนดุ จู้จี้ ขี้บ่น ครบตามตำราเมียหลวง ทำให้สามี ลุงบุญเกิด วัย 73 ต้องเรียบร้อยเหมือนผ้ารีดแล้วพับ ไม่มีปากเสียง เวลาเมียบ่น ก็เลี่ยงไปนั่งดูพระที่ชอบและสะสมมาตลอดชีวิต.....

เมื่อ ต้นปี ลูกชายเรียนจบ ลุงก็กล่อมลูกชายให้กลับมาอยู่บ้านช่วยแม่ดูแลกิจการไก่ออกลูกเป็นไข่ พอมีคนช่วยแล้ว ลุงเกิด ก็ถือโอกาสขออนุญาตเมียไปบวช โดยเหตุผลว่ามีปู่ย่าตายายมาเข้าฝันแล้วไม่สบายใจ อยากบวชอุทิศส่วนกุศลให้ โดยกําหนดจะบวชแค่ 15 วัน.....

แต่ครบกําหนดแล้ว พระบุญเกิด ไม่ยอมสึก พอ ป้ากำไล ไปตาม ก็ผลัดมาเรื่อย จนนี่ใกล้จะเข้าพรรษาอีกรอบแล้ว ก็ยังไม่ยอมสึก ป้ากำไล เลยไปฟ้องเจ้าอาวาส ให้เรียกตัวมาเจรจาต่อหน้า แต่ยังไงก็ไม่ยอมสึก จน ป้ากําไล สุดทน ขอให้บอกเหตุผลจริงๆมาว่าทำไม มึง...เอ๊ย ท่านถึงไม่ยอมสึก--เจ้าอาวาสก็ว่า นั่นสิ ไหนว่าจะบวชแค่ 15 วัน--พระบุญเกิด เกรงใจเจ้าอาวาส เลยบอกความจริงว่าบวชแล้วสบายใจ ได้อยู่ดูพระเครื่อง ดูพระประธาน.....

ป้ากําไล ฟังก็ยัวะ ปรี๊ดว่า แล้วดีกว่าตรงไหน พระบุญเกิด ตอบแบบกลัวๆว่า พระประธาน พระเครื่อง พูดไม่ได้ ไม่ด่า ไม่ตี ยิ่งดูยิ่งสบายใจ ยิ่งเก่ายิ่งมีราคา ต่างจาก ป้ากำไล ยิ่งแก่ยิ่งดุ ยิ่งดูยิ่งใจ ห่อเหี่ยว .....

พระหลวงพ่อทวด พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ พังงา.

ป้า กําไล พยักหน้าเหมือนเข้าใจ แล้วถามย้ำว่า ไม่สึกแน่นะ พระบุญเกิด ก็ยืนยัน ไม่สึก ป้ากําไล จึงใช้ไม้ตายสุดท้าย งั้นฉันจะมาบวชชีอยู่ด้วยกันเสียเลย ไม่สึกก็ไม่สึกด้วยกัน คราวนี้ได้ผล พระบุญเกิด ตกใจเมียเอาจริง เลยรับปากเสียงอ่อย งั้นสึกก็ได้.....

เจ้าอาวาสก็โล่งใจ แต่ถาม ป้ากําไล ว่า ทีแรกเห็นฟังเหตุผลก็ทําท่าใจอ่อนแล้ว ทําไมถึงไม่ยอม ป้ากําไล บอกว่า เรื่องเล่นพระอยู่กับพระสบายใจก็เชื่อ จู้จี้ขี้บ่นยอมรับว่าจริง แต่ที่ว่า ยิ่งแก่ยิ่งดูยิ่งห่อเหี่ยว รับไม่ได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.