สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 09/06/56
สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 09/06/56
เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ของสุติเซี่ยงม้า.
สีกา อ่าง เข้ามาเปิด สนามพระวิภาวดี วันนี้ ก็เจอ พระสมเด็จอรหัง ที่ท่านผู้ชมถามกันมามากมาย เพราะยุคนี้ ราคาพระสมเด็จรุ่นพี่ๆวิ่งไปที่หลายๆล้านทั้งนั้น คนเลยหันมาหาพระสมเด็จรุ่นน้องๆแทน.....
หนึ่งในบรรดานั้นก็คือ พระสมเด็จอรหัง ที่ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดพระเชตุพนฯ สร้างไว้.....
เดิม ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหอย จ.อยุธยา มีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงนับถือเป็นพระอาจารย์ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ จึงนิมนต์ท่านมาอยู่ วัดพลับ แต่งตั้งสมณศักดิ์ที่ พระญาณสังวรเถระ.....
พระสมเด็จอรหัง สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุกไก่เถื่อน) พิมพ์โต๊ะกัง เนื้อแดง ของสุรศักดิ์ จันทร์เมือง.
ท่าน ได้ชื่อว่าเป็นต้นตํารับการสร้างพระด้วย เนื้อผงพระพุทธคุณ ปางสมาธิ รูปทรงสี่เหลี่ยม (ชิ้นฟัก) ด้านหลังมีอักษรภาษาขอม ว่า อรหัง.....
ประมาณ การได้ว่าท่านคงสร้างขึ้นขณะจําพรรษาอยู่ที่วัดพลับราวปี 2360 แล้วนํามาบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์วัดมหาธาตุ ตอนรับตําแหน่งสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.2363-พระอีกส่วนหนึ่ง เชื่อว่าไปบรรจุไว้ที่วัดสร้อยทอง.....
รวมแยกพิมพ์ได้ 5 แบบคือ พิมพ์สังฆาฏิ (เข่าตรง) พิมพ์ฐานคู่ (เข่าโค้ง) พิมพ์เกศอุ (เปลวเพลิง) พิมพ์โต๊ะกัง (เนื้อแดง) พิมพ์เล็กมีประภามณฑลและไม่มี.....
เชื่อกันว่า พระสมเด็จอรหัง เป็นต้นแบบ พระพิมพ์สมเด็จเนื้อผง ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ซึ่งเป็นศิษย์ สมเด็จพระสังฆราชสุก .....
และ เมื่อเชื่อถือกันเช่นนี้ จึงทำให้ พระสมเด็จอรหัง ซึ่งก่อนนี้เป็นพระสมเด็จชั้นสองชั้นสาม เริ่มกลับกลายมาอยู่ ฟร้อนโรว์ จึงขอบอกว่าใครจะหาก็รีบๆเข้า แพงแน่ .....
พระพุทธรูปเชียงแสน สิงห์ 1 ปางสมาธิเพชร สนิมเขียว 12 นิ้ว ของจุก อุตรดิตถ์ ศูนย์พระมณเฑียร.
องค์ ในภาพนี้เป็นของ เสี่ยป๋อง-สุรศักดิ์ จันทร์เมือง เป็น พระพิมพ์โต๊ะกัง เนื้อแดงหลังปั๊ม “อรหัง” เป็นองค์ที่ลงอยู่หนังสือ อ.ประชุม กาญจนวัฒน์ ที่มีสภาพสมบูรณ์ระดับแชมป์.....
คนยุคนี้อาจไม่ทันรู้จัก อาจารย์ประชุม ซึ่งถือได้ว่าเป็น ครู ในวงการวัตถุมงคลยุคเก่า เพราะสมัยก่อน การเล่นพระ ยังไม่มีสื่อด้านพระเครื่องมากมายแบบสมัยนี้ ไม่มี สนามพระวิภาวดี ไทยรัฐ ที่ สีกาอ่าง มาเล่าโน่นนี่ทุกอาทิตย์ ให้ใช้เป็นข้อมูลศึกษาเปรียบเทียบก่อนจะเช่าพระ จึงต้องพึ่งพาแต่ เซียน ถ้าเจอเซียนดีก็ดีไป ถ้าเจอไม่ดี ก็ซึมไป.....
พอ อาจารย์ประชุม ซึ่งมีร้านถ่ายรูป ชื่อ โมนาลิซ่า เกิดความคิดในการถ่ายรูปพระ ทำเป็นหนังสือไว้ จึงถือเป็นตำราที่คนยุคนั้นใช้เป็น ครู สอนให้ดูพระเป็น เพราะมีรูปพระในหนังสือไว้เปรียบเทียบ พอให้รู้จักพระแท้.....
พระปิดตาเมฆสิทธิ์ หลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม กทม.
จาก นั้นประมาณปี 2515 อาจารย์ประลอง กระแสสินธุ์ ก็ทำหนังสือพระเครื่องเล่มแรก พระเครื่องปริทัศน์ ออกมา ตามด้วย อภินิหารและพระเครื่อง สมัยนั้น ขายเล่มละ 5 บาท 6 บาท และยังมี อาณาจักรพระเครื่อง ของ อาจารย์เปี๊ยก-ปรีชา เอี่ยมธรรม ขายเล่มละ 10 บาท สมาชิกปีละ 12 เล่ม 120 บาท รวมค่าส่ง อีกเล่มคือ ชาตรี--ซึ่งเลิกทำกันไปหมดแล้ว เบื่อบ้างเจ๊งบ้าง.....
ถ้าเป็นหนังสือรวมเล่มพิเศษ อย่าง พระเครื่องสกุลลำพูน ชุด นพคุณ ในเครือ อภินิหารและพระเครื่อง ที่ ชินพร สุขสถิตย์ พิมพ์เมื่อปี 2516 ก็ขาย 50 บาท ซึ่งถือว่าแพง คนพิมพ์ขายจึงต้องอธิบายกันยกใหญ่ ทำไมแพง.....
เสียดายมาก ที่ระบบการพิมพ์เมื่อ 50 ปีก่อนยังไม่ทันสมัย ภาพพระที่มีแต่พระแท้ พระสวย จึงไม่คมไม่ชัด และส่วนใหญ่ยังเป็นภาพขาวดำ.....
ตามมาด้วย พระกําแพงลีลา เม็ดขนุน กรุลานทุ่งเศรษฐี กําแพงเพชร.....
แรก เริ่มที่พบพระขึ้นจากกรุวัดพิกุล และกรุกลางลานทุ่งเศรษฐีเมื่อปี พ.ศ.2470 นิยมเรียกกันว่า พระกําแพงเขย่ง บ้าง พระทุ่งเศรษฐี บ้าง ภายหลังจึงได้รับนามว่า พระกําแพงลีลา เม็ดขนุน .....
พระกําแพงลีลา เม็ดขนุน กรุลานทุ่งเศรษฐี กําแพงเพชร พิมพ์ชะลูด ของจุก อุตรดิตถ์.
พิมพ์ พระแยกตามขนาดได้เป็น พิมพ์เล็ก กับ พิมพ์ใหญ่ ที่ยังแยกเป็น พิมพ์ชะลูด ตามลักษณะที่ดูเหมือนเคลื่อนซ้อนอย่างองค์นี้ของ เสี่ยจุก อุตรดิตถ์.....
องค์ ที่สาม คือ เหรียญจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน พิจิตร ของ เสี่ยสุติ เซี่ยงม้า เป็นพระสภาพผ่านการใช้ที่ยังสวยโชว์ได้ แม้หูห่วงจะถูกตัดหายไปแต่เดิม แต่ก็ยังจัดเป็นพระ ดูง่าย เพราะทั้งพิมพ์และเนื้อถูกต้องตรงตามตําราเป๊ะ.....
ต่อไปขอเสนอ พระพุทธรูปบูชาศิลปะสมัยเชียงแสน สิงห์ 1 ปางสมาธิเพชร สนิมเขียว หน้าตัก 12 นิ้ว องค์นี้พิจารณาจากภาพ ด้วยหลักการเบื้องต้นที่ผู้เชี่ยวชาญพระบูชาสอนไว้คือ ดูจากบนลงล่าง เริ่มจากยอดพระเกตุ มุ่นมวยผม ทรงพระพักตร์ พระขนง พระเนตร พระกรรณ พระนาสิก ชายผ้าสังฆาฏิ จังหวะวางพระหัตถ์พระกร ลงมาถึงฐาน พอจะบอกได้ว่า เป็นพระพุทธรูปบูชา ที่มี อายุถึงยุค (พุทธศตวรรษ 16-18) พุทธศิลป์ถึงสมัย .....
ประมาณราคา 5 ล้านกว่า จึงถือว่าน่าสนใจมาก เจ้าของคือ เสี่ยจุก อุตรดิตถ์ ศูนย์พระมณเฑียร สุรวงศ์ ซึ่งยินดีให้ลูบคลํา สอบน้ำหนัก ส่องเนื้อ ดูสนิม องค์ประกอบอื่นๆได้.....
อีกองค์คือ พระปิดตาเมฆสิทธิ์ หลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม กทม. ที่มีชื่อเสียงเอกลักษณ์ของ เนื้อโลหะสีเขียวเงาวาวราวสีปีกแมลงทับ ที่ในตํารา เล่นแร่แปรธาตุ บอกว่า ทําสําเร็จได้โดยผู้ทรงศีลบริสุทธิ์มีพุทธาคมแก่กล้า ให้ชื่อว่า เมฆสิทธิ์ มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ด้านคุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาด เสริมดวงชะตาวาสนาบารมี.....
เหรียญพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีฯ ของฮ่าว จันดี.
หลวงปู่ทับ มีประวัติรางเลือน บอกแต่เพียงว่าเกิดปี พ.ศ.2389 มรณภาพปี 2480 เป็นพระลูกวัดในสมัย สมเด็จพระพุฒา-จารย์ (นวม) เป็นเจ้าอาวาส.....
ท่าน เป็นพระธรรมดาไม่มีฐานาสมณศักดิ์ แต่มีชื่อลือกระฉ่อนว่า มีวิชาพุทธาคมเข้มขลัง ชํานาญ ใน วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ขนาด หลวงปู่ศุข วัดปากคลองฯ ยังยกย่องยอมรับ.....
ท่านสร้าง พระเนื้อเมฆสิทธิ์ ไว้หลายแบบพิมพ์ มีจํานวนไม่มากนัก ที่รู้จักแพร่หลายเป็น พิมพ์พระปิดตา ราคาค่าความนิยมอยู่หลักแสนต้น องค์นี้ของ เสี่ยโจ้ พระราม 4.....
ถึงตอนนี้ มี คำถามสนามพระ จาก แฟนคลับ สนามพระวิภาวดี ว่าเคยได้ยินเรื่อง เล่นแร่แปรธาตุ บ่อย ให้อธิบายที.....
การ เล่นแร่แปรธาตุ ที่วงการพระรู้จักนั้น ไม่ได้เกิดจากพระเกจิของเรา แต่เป็นอิทธิพลที่ระบาดมาจากฝรั่ง เพราะใน ยุคกลางของยุโรป เชื่อว่า หากรู้สูตร จะสามารถแปรธาตุโลหะราคาถูก เช่นตะกั่ว ทองแดง ให้กลายเป็น ทองคำ ได้.....
เหรียญพระพุทธเมตตาเสนานาถ เนื้อทองแดง.
ก็ เลยเกิดความนิยมในการทดลอง แปรธาตุ กันมาก จนเกิดวิชา รสายนเวท คือการผสมแร่แปรธาตุ ด้วยเคมี ซึ่งได้ธาตุใหม่ๆเยอะแยะ ยกเว้น ทองคำ ทำไม่ได้จนทุกวันนี้ ไม่งั้นร้านทองต่างๆเช่น ฮั่วเซ่งเฮง แม่ทองใบ โต๊ะกัง ก็เจ๊งดิ.....
ท่านผู้ชมคงอยากถามต่อว่า แล้ว ยุคกลาง เนี่ย มันคืออะไร คนถึงสนใจ การเล่นแร่แปรธาตุ.....
ถาม เองตอบเอง ยุคกลาง ก็คือยุคหลังจาก อาณาจักรกรีกและโรมัน ที่ยิ่งใหญ่สุดๆล่มสลาย เมื่อมาเฟียล่ม พวกอนารยชน (พวกไม่มีวัฒนธรรม) อื่นๆ เช่น ไวกิ้ง ซึ่งยังเถื่อนอยู่ ก็บุกมาทำลายซ้ำจนชอกช้ำ จนเรียกว่า ยุคมืด เพราะมีแต่สงคราม ปล้นฆ่าเผา คล้ายๆทางใต้บ้านเราเนี่ย.....
จน ชาติในยุโรปเริ่มตั้งตัวได้ใหม่ จึงเกิด ยุคกลาง ช่วงที่รุ่งเรืองสุด เป็น ยุคกลาง ตอนกลาง ยาวนาน 300 ปี ระหว่าง ค.ศ.1050-1350.....
พระขุนแผนเคลือบ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี รุ่นพรหมบันดาล.
ศิลปวิทยา แขนงต่างๆจึงเกิดขึ้นมากในช่วงนี้ และด้วยการปกครองแบบ ศักดินา มีเจ้าขุนมูลนาย อัศวิน จึงสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ไว้มากมายเพราะให้ทาสทำ ศิลปะในยุคนี้ก็คือ ศิลปะโกธิค--ใครไปยุโรป เห็นโบสถ์อาคารไหนยอดแหลมเฟี้ยว นั่นแหละ โกธิค.....
การเล่นแร่แปรธาตุ จึงเกิดขึ้นในช่วงนี้ เพราะเป็นยุคทองที่สงบร่มเย็น ผู้คนมีจินตนาการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ.....
และ หลังจาก โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกา พวกยุโรปที่เคยนึกว่าตัวเองเป็นชนชาติสูงส่งไฮโซ ก็เริ่มสำนึกว่าต้องมีการติดต่อกับชาติอื่นๆบ้าง จึงเริ่มไปมาหาสู่ คาดว่า การเล่นแร่แปรธาตุ ของยุคกลาง ก็ได้แพร่มาถึงเอเชีย ด้วยประการฉะนี้.....
ต่อด้วย สุดยอดเหรียญเมืองใต้ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พระเกจิที่มีเกียรติประวัติโด่งดังของนครศรีธรรมราช.....
2-3 ปีนี้ วัตถุมงคล พ่อท่านคล้าย ทุกรุ่นทุกพิมพ์ แพงขึ้นมาก รังใหญ่เมืองนครฯ และนักสะสมพระใต้ตามเก็บอุตลุด.....
โดย เฉพาะ เหรียญรุ่น 1 พิมพ์นิยม หลัง 2 ขอบ ซึ่งสร้างแจกและออกให้ทำบุญที่วัดสวนขัน นครศรีฯ ปี 2498 จาก หลักแสนต้น ตอนนี้ล้านแล้ว และองค์แชมป์ บุกกัน เกินล้าน.....
พอ เสี่ยฮ่าว จันดี เจอเหรียญนี้ สวยสภาพเดิม ที่สำคัญเจ้าของเดิมเล่าว่า รับมากะมือพ่อท่านคล้าย เมื่อ 50 ปีก่อน เลยรีบจ่ายตังค์ทันที.....
สุด ท้ายเป็น ราหูกะลาแกะหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง นครปฐม เครื่องรางของขลังสกุลนี้ มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ด้านเสริมดวงชะตา กล่าวกันว่าถ้าได้ใช้คู่กับ พระปิดตาเมฆสิทธิ์ วัดอนงค์ จะแก้ปัญหาดวงชะตาตกต่ำ และยังมีอานุภาพป้องกันสิ่งอาถรรพณ์อัปมงคล เข้าตัวได้เด็ดขาด--เจ้าของคือ เสี่ยอ๊อด ดอนหวาย ศูนย์พระพันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน.....
ราหูกะลาแกะหลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ของอ๊อด ดอนหวาย.
เข้า สนามพระใหม่ กัน วันนี้มี 3 รุ่น รายการแรกคือ เหรียญพระพุทธเมตตาเสนานาถ ของ กองทัพบก ซึ่งดังมากๆ เพราะได้รับพระราชทานนามจาก “ในหลวง” ว่า พระพุทธเมตตาเสนานาท แปลว่า พระพุทธเจ้ามีเมตตาทรงเป็นที่พึ่งของหมู่ทหาร และพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้นำตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ ประดิษฐานที่ด้านหลังของเหรียญ .....
รูปแบบเหรียญที่มีองค์พระ ประดิษฐานอยู่กลางเหรียญรูปไข่ เป็นผลงาน อาจารย์สาคร โสภา แห่งวิทยาลัยช่างศิลป์ สถาบันพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒธรรม สร้างสรรค์ประติมากรรม พุทธศิลป์ขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ โดยรวบรวมศิลปะทุกยุค ทั้งเชียงแสน สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินทร์ มาผสมผสาน เป็น พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปาง-มารวิชัย ที่มีเมตตาและงดงาม เข้มขลัง.....
พิธีพุทธาภิเษกจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 56 ปี ณ มณฑลพิธีพุทธมณฑล.....
ตอน สีกาอ่าง เขียนไปอาทิตย์ก่อน พระบูชาหมดแล้ว เหลือแต่ เหรียญรูปไข่เนื้อทองแดง ชอบก็ให้รีบไปจอง หรือสอบถามที่กองบัญชาการกองทัพบก ธนาคารทหารไทย
ต่อด้วย พระสมเด็จชินบัญชร วัดชุมนุมศรัทธา (วัดเก่า) อ. บางเลน นครปฐม ซึ่งจัดสร้างเพื่อหาปัจจัยซื้อที่ดินให้วัด และบูรณะหอฉันซึ่งถูกน้ำท่วมตั้งแต่ปีโน้น แต่ยังไม่มีงบซ่อม--ถ้าได้ปัจจัยมากพอก็จะยกอุโบสถซึ่งถูกน้ำท่วมเหมือนกัน แต่ขอซ่อมหอฉันก่อน เพราะพระไม่มีที่เบรคฟาสต์ ลั้นช์.....
นานๆจะมี การจัดสร้าง พระสมเด็จเนื้อโลหะ เพราะไปนิยมเนื้อผงเหมือนยุคสมเด็จ (โต) แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าท่านมีกำลัง ก็คงสร้างเนื้อโลหะเหมือนกัน แต่เพราะสร้างเองเสกเององค์เดียว เลยใช้วัสดุง่ายๆข้าวสุกเหลือก้นบาตร เศษธูป พวงมาลัยแห้ง ฯลฯ มาทำ พระสมเด็จ เลยมีแต่เนื้อผง.....
แต่ ยุคหลังๆสำนักวัดต่างๆ ก็มีการจัดสร้าง พระสมเด็จเนื้อโลหะ ซึ่งจริงๆแล้วพกบูชาง่ายไม่ต้องกลัวเสียหาย สำหรับรุ่นนี้ สร้างได้สวยเนี้ยบมาก และยังมี พระคาถาชินบัญชร ของสมเด็จ (โต) ด้านหลัง ที่เห็นนี้เป็น เนื้อทองแดง แต่ กะไหล่ ทอง ให้ดูหรูหราสวยงาม-
พระสมเด็จชินบัญชร วัดชุมนุมศรัทธา (วัดเก่า) บางเลน นครปฐม เนื้อทองแดง กะไหล่ทอง.
อีกสำนัก ดังกระหึ่มเหมือนกันเพราะเป็นของ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ซึ่งจัดสร้างรุ่น พรหมบันดาล.....
ใน รุ่น รูปแบบที่เห็นแล้วต้องบูชา คือ พระขุนแผนเคลือบ เพราะ หลวงพ่อ ตั้งใจสร้างให้เป็น พระชนะภัย มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เสริมอํานาจบารมี เช่นเดียวกับ พระขุนแผนเคลือบ ยุคเก่า.....
เพราะท่านเจาะจงให้ใช้ อักขระมหายันต์ นะหน้าทอง หรือ พุทธซ้อน ตํารับ หลวงพ่อเดิม ซึ่งเป็น ยันต์ครู มาประทับ กํากับด้วยชื่อท่านไว้หลังองค์พระ.....
ทุกขั้น ตอน หลวงพ่อ เน้นให้ทําอย่างพิถีพิถัน นับแต่พิมพ์พระที่กรรมการ เจ้าของพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล องค์แชมป์ ใจถึงมีศรัทธา ยอมให้เอา องค์จริงมาถอดพิมพ์สร้าง ทําให้ได้พิมพ์พระที่งดงาม เหมือนจริงสุดๆ .....
มวลสาร ก็ได้ ผงพุทธคุณ ของหลวงพ่อกับพระเกจิ และเคลือบเฉพาะด้านหน้า เปิดหลังโชว์เนื้อแท้ผงพุทธคุณ สวยเข้มขลังจนกล้าเปิดให้ชมองค์จริงก่อนจอง ที่วัดอัมพวัน
พิธีพุทธาภิเษก 19 มิ.ย.นี้ ณ พระอุโบสถวัดอัมพวัน จัดใหญ่ขลังมาก โดย สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เป็นประธาน หลวงพ่อจรัญ เป็นประธานจุดเทียนชัย.....
ลากันด้วยเรื่องที่แฟนๆอยากรู้ว่า ควรจะใช้พระอะไรเวลาไปเสี่ยงโชค.....
ความ คิดของข้าพเจ้านั้น พระย่อมไม่ถูกกับอบายมุข อยู่แล้ว แต่ถ้าไปเล่นสนุกๆเพื่อความเพลิดเพลินเวลาไปเมืองนอกที่มีคาสิโน ก็ไม่น่าผิดศีล แต่ถ้าเอาจริงเอาจัง พระท่านคงไม่ “หนับหนุน” เพราะมีได้ก็มีเสีย ถ้าเล่นพัวพันไม่ยอมเลิก ก็กลายเป็นติดการพนันไป.....
วัน ก่อนที่หยุดช่วงวันวิสาขบูชา แก๊งเจ๊ๆเฮียๆ นำโดย เจ๊ราตรี ก็นัดไปลุยมาเก๊า รวบรวมพรรคพวกแล้วได้สิบกว่าคน ทัวร์เลยแถมให้ 1 คน ก็เลยชวน เจ๊เอียง ซึ่งชอบเล่นเหมือนกันไปด้วย แต่ เจ๊เอียง กำลังนุ่งขาวห่มขาว ถือศีล ไม่ยอมไป พอทุกคนคะยั้นคะยอไปเหอะ ไปกิน ไม่ต้องเล่นก็ได้ แกก็เลยไป แต่ไม่เล่น เคร่งครัดจริงๆ.....
ปรากฏ ทุกคน ถูกบ่อนกินเรียบ วันกลับ ก็คุยกันว่าใครไปเสียอะไรยังไง แล้วบอก เจ๊เอียง ว่า ลื้อดีกว่าเพื่อน ได้มาเที่ยวฟรี ไม่ได้ไม่เสีย แต่ เจ๊เอียง บอกเฉยว่า ได้ .....
เพื่อนๆตาโต นึกว่า เจ๊เอียง ทนบรรยากาศเร้าใจในบ่อนไม่ได้ เลยศีลแตก แอบไปเล่น เลยรุมถามกันใหญ่ว่าเล่นอะไร ได้เท่าไหร่--เจ๊เอียง บอกว่าไม่ได้เล่น นั่งเฉยๆก็ได้ตังค์.....
เพราะทุกคนในทัวร์เล่นเสีย ก็เลยเอาพระที่พกไปหวังให้ช่วย แต่พระไม่ช่วย มาขาย เจ๊เอียง ซึ่งมีทุนอยู่คนเดียว แกก็เลยได้ทั้ง พระวัดปากน้ำ พระหลวงพ่อทวด ราคาถูก เอากลับไปให้ลูกชายซึ่งเป็นเซียนพระ ขายทำกำไร เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น