สนามพระ สนามพระเครื่อง 17/02/56
สนามพระ สนามพระเครื่อง 17/02/56
พระสมเด็จ พิมพ์เจดีย์ วัดระฆังโฆสิตาราม ของอู๋ ตรอกจันทน์.
เข้า สนามพระวิภาวดี วันนี้ เห็นหลายคนเดินระทด ระทวย เพราะกินหวยยำไปเมื่อวานนี้ แต่ถึงจะโบ๋ พอเห็นพระสวยๆ ก็ยังอยากได้กัน ดังนั้น งวดหน้า มิตรรักแฟนเพลงก็ควรหาเลขให้เด็ดกว่านี้ เผื่อจะได้มีโอกาสถอยพระสวยๆแบบที่ สนามพระวิภาวดี นิมนต์มา นำเหนอ ได้.....
องค์แรกคือ พระสมเด็จ พิมพ์เจดีย์ วัดระฆังโฆสิตาราม ของ เสี่ยอู๋ ตรอกจันทน์ สภาพสวยมีเสน่ห์ มีจุดเด่นให้กรี๊ด.....
พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ กรุวัดใหม่อมตรส ของอู๋ ตรอกจันทน์ .
เสี่ย อู๋ ส่งพระมาทีไรก็สะใจ เพราะมีจุดเด่นทุกองค์ อย่างองค์ที่สอง พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ กรุวัดใหม่อมตรส เห็นฟอร์มโค้งๆมนๆแบบนี้ อย่าล้อเล่น นึกว่าจะเป็นพระราคาโรงเรียนวัดต่างจังหวัดเชียวนา.....
เพราะ ในยุคที่ พระสมเด็จ ขาดแคลน ตลาดเป็นของ ผู้ขาย ซึ่ง ผู้ซื้อ แทบไม่มีสิทธิ์เกี่ยง เจอพระสภาพนี้ต้องรีบตัดสินใจ ขืนทํายึกยัก ติโน่นนี่นั่น รับรองว่าอด.....
ปัจจุบันถือว่า พระสมเด็จ ที่มีรอยสึกหรอลบเลือนจากการสัมผัสใช้ไม่โดนองค์พระ ไม่มีรอยอุดซ่อม องค์ยังดูงามเด่นเป็นสง่าแบบองค์นี้ของ เสี่ยอู๋ ตรอกจันทน์ เป็นพระสภาพสมบูรณ์ ให้ประเมินราคาก็น่าจะอยู่ระหว่าง 3-4 ล้าน ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแน่ๆ --แต่ถ้า เสี่ยอู๋ จะใจดี ให้ต่ำกว่านี้ก็ขอเชิญมาเฉียดใกล้ข้าพเจ้าเพราะ เสี่ยวุฒิชัย หาญพานิช นักสะสมพระหน้าใหม่ ฝากหา พระสมเด็จ มาข้ามปีแล้ว ยังหาให้ไม่ได้ เสียชื่อและเสียหน้า สีกาอ่าง มั่ก.....
พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง กรุวัดนางพญา พิษณุโลก ของดามพ์ สุพรรรณ.
องค์ ที่สาม เป็น พระนางพญา พิมพ์เข่าตรง กรุวัดนางพญาพิษณุโลก ซึ่งระยะนี้มีมาทุกอาทิตย์ เหมือนจะบอกว่า เป็นยุค ผู้หญิง ปกครองบ้านเมือง เพราะผู้หญิงเก่งได้ขึ้นมาทำงานบริหารกันมากหน้า หลายตากว่าทุกยุค ทั้งระดับชาติ--ส่วนในบ้านนั้น ใหญ่มาตั้งแต่โบราณแล้ว.....
พระเครื่องตระกูลนี้ พระวิสุทธิกษัตรีย์ พระมเหสีสมเด็จพระมหาธรรมราชา (ลิไท) ทรงสร้างในช่วงปลายรัชสมัย ระหว่างปี พ.ศ.1900-2000.....
ลักษณะ เป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผา (ปนกรวดปนทราย) รูปทรงสามเหลี่ยม ศิลปะสมัยอยุธยา (ยุคกลาง) หลายขนาด หลายแบบพิมพ์ บรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ วัดนางพญา ซึ่งสร้างอยู่คู่กับวัดราชบูรณะในอาณาบริเวณเดียวกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก ได้รับการเรียกนามว่า “พระนางพญา” ตามชื่อวัด.....
เมื่อมี ผู้นําไปใช้ติดตัว ประสบพุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกัน ถึงคงกระพันชาตรี จึงได้รับการยกย่องจากนักนิยมพระให้เป็น ราชินีแห่งพระเครื่อง และ ตรียัมปวาย เห็นความสําคัญของพุทธศิลป์ พุทธศาสตร์ และพุทธคุณคัดเลือกให้เป็น เบญจภาคี.....
พิมพ์นี้จัดอยู่ในหมวด พระพิมพ์ใหญ่ ของตระกูล ซึ่งผู้ชายชอบอ้างว่า เป็นพิมพ์ที่เหมาะกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พิมพ์ใหญ่ สุดสวยองค์นี้ ก็เลยอยู่กับผู้ชายชื่อเสี่ยดามพ์ สุพรรรณ.....
พระนางพญา พิมพ์อกนูนเล็ก กรุวัดนางพญา พิษณุโลก ของอ้วน นครปฐม.
อีก องค์ก็กรุเดียวกัน พระนางพญา แต่เป็น พิมพ์อกนูนเล็ก ที่ผู้ชายชื่อ เสี่ยอ้วน นครปฐม บอกว่า สวยเนี้ยบหาองค์สู้ยาก จึงตัดสินใจลงทุนจ่ายไป 8 แสนบาท ซื้อไว้ก่อน เพราะเชื่อว่าต้องมีคนตามซื้อและให้กําไรแน่ๆ.....
เหรียญเจ้าสัว เนื้อทองเหลือง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม ของสมชาย สาธิตอเนกชัย .
อีกรายการ เป็น เหรียญเจ้าสัว เนื้อทองเหลือง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม ซึ่งเพิ่งจะปลายปีก่อน ลงให้ดูไปแล้ว แต่ความที่สวยเนี้ยบ พอเปลี่ยน พ.ศ.ใหม่ หลวงพ่อ ก็ย้ายกุฏิไปจําวัดอยู่กับ เสี่ยสมชาย สาธิตอเนกชัย เจ้าของโรงปั๊ม ซอยมังกร ซะแล้ว.....
พระกริ่งชนะคน สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ พ.ศ.2481 ของเอก ศิริปันนา เชียงใหม่ .
ต่อ ด้วย พระกริ่งชนะคน สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ รุ่นนี้ทําพิธีเททองสร้างเมื่อปี พ.ศ.2481 เมื่อสมเด็จฯ เห็นองค์พระที่เทสำเร็จ ท่านมีดําริว่าพระนี้ ชนะคน มีประกายรัศมีดีมาก ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ความหมาย แต่เห็นเป็นเรื่องดี จึงใช้เป็นชื่อเรียกพระรุ่นนี้ตลอดมา องค์ในภาพ เป็นของ เสี่ยเอก เจ้าของโรงแรมศิริปันนา เชียงใหม่ ที่มีฉายา เอก ศิริปันนา.....
เขี้ยวเสือแกะรูปสิงห์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม ของอ๊อด ดอนหวาย.
สุด ท้ายเป็นเครื่องรางของขลัง ยอดนิยมอันดับหนึ่ง เขี้ยวเสือแกะรูปสิงห์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม ที่สร้างเป็นเครื่องรางสร้างเฉพาะตัว เป็นรูปสิงห์นั่งเหยียดขาคู่หน้า ชูคอ ฝีมือแกะอย่างช่างชาวบ้าน นิยมเล่นหากัน โดยการพิจารณาอายุความเก่าของรูปทรง เนื้อเขี้ยว และคราบไคล ตามซอกลึก.....
ผู้ที่ได้ไว้มักเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิด ที่พิสูจน์ทราบได้ไม่กี่ตระกูล บอกว่ามีพุทธคุณด้านมหาอํานาจเด็ดขาดนัก ขนาดเดินผ่าน นักเลง ยังไม่กล้า สบตา.....
ตัวนี้ของเสี่ยอ๊อด ดอนหวาย เนื้อเขี้ยวฉํ่า ดูดีมีอายุความเก่าอย่างเป็นธรรมชาติมาก-- แต่สมัยนี้ ถึงจะมี เขี้ยวเสือ แบบนี้เป็นโหลติดตัว ก็อย่าได้ย่ามใจเดินย้วยฝ่าดงนักเลงเป็นอันขาด เพราะมันไม่เสียเวลาสบตาหรอก แต่จะจี้เอาน่ะดิ๊.....
เอ้าต่อไปใครเสียหวยหมดตูด ไม่มีทุนเช่าพระเก่าแพงๆที่ดูมาหลายองค์ ก็ไปดูพระใหม่ ซึ่งเห็นแต่ละรุ่น น่าเก็บทั้งนั้น.....
เทวรูปจำลอง ลอยองค์ พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ รุ่นแรก กรมธนารักษ์.
รายการ แรก เปิดตัวไปอย่างฮือฮาสุดๆ เพราะ เป็นครั้งแรกในรอบ 128 ปี ที่มีการจัดสร้าง พระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ ให้ประชาชนทั่วไปมีโอกาสบูชา เพราะ องค์พระคลัง ถือเป็น เทวรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ ร.5 โปรดให้ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระจักรพรรดิพงศ์ ซึ่งทรงดูแล กรมพระคลังมหาสมบัติ ในสมัยนั้น (หรือปัจจุบันคือกรมธนารักษ์) สร้างขึ้น เพื่อให้คุ้มครองปกปักรักษาทรัพย์ของแผ่นดิน ถือเป็น เทวรูป ส่วนพระองค์ จึงไม่ค่อยมีคนได้เห็น.....
เทวรูป พระคลัง คล้าย พระสยามเทวาธิราช เป็นเทวดาหล่อยืน ทรงเครื่องกษัตริยาธิราช สวมมงกุฎยอดชัย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว สถิตในเรือนแก้วไม้จันทน์--นับถึงปีนี้ เทวรูปพระคลัง มีอายุถึง 128 ปีแล้ว และศักดิ์สิทธิ์มากเพราะปกป้องรักษา มหาสมบัติของแผ่นดินมาจนทุกวันนี้.....
จึงเป็นโอกาสดีมากๆ เพราะ มี จัดสร้าง เหรียญพระคลัง และ เทวรูปพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติขึ้นครั้งแรก ในโอกาสที่ กรมธนารักษ์ ครบ 80 ปี เพื่อนำรายได้ไปดูแลรักษา และเผยแพร่ประวัติศาสตร์ทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ให้คงอยู่สืบไป.....
สำหรับ เทวรูปพระคลัง ลอยองค์ ความสูง 29 ซม. มี 3 เนื้อ ดูราคา ทองคำ องค์ละ 9,999,999 แล้วต้องหลบให้มหาเศรษฐี ส่วน เนื้อเงิน ก็ต้องมีสตางค์พอสมควร--แต่ที่พอไหวถ้าใจรักอยากได้ของหายาก ก็ต้อง เนื้อโลหะผสม ปิดทองคำเปลว.....
พิธีกรรมจัดอย่างขลังยิ่งใหญ่ โดยได้จัด พิธีบูชานพเคราะห์ และ มังคลาภิเษก ไปเมื่อต้นปี และเปิดให้บูชาแล้ว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้คนไทย ให้มั่นใจในความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ.....
เหรียญตะกรุด สมอทอง รุ่น เพิ่มพูนทรัพย์ ๙๐ หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ สุราษฎร์ฯ.
รายการ ที่สอง แนวพระเกจิ ซึ่งศิษยานุศิษย์ หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ สุราษฎร์ฯ ไม่มีไม่ได้ เพราะหลวงพ่อซึ่งปัจจุบันอายุ 90 ปี 63 พรรษา ให้จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่น เพิ่มพูนทรัพย์ ๙0 เพื่อมอบแก่ผู้บริจาคสร้างกุฏิใหม่ แทนหลังเดิมซึ่งเล็กและเก่าพอๆกับอายุท่าน ซึ่งมีปัญหาปอดและระบบทางเดินหายใจ.....
รุ่น เพิ่มพูนทรัพย์ ๙0 มีทั้งเหรียญและเครื่องรางของขลัง เหรียญ เป็น พิมพ์นั่งเต็มองค์ หลังพระปิดตา เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ อัลปาก้า ฯลฯ ทุกรายการสร้างน้อย ชุดกรรมการอุปถัมภ์ สร้างเพียง 290 ชุด ป่านนี้อาจจะหมดหรือเหลือน้อย เพราะราคาสั่งจอง 3,900 แต่ได้รับวัตถุมงคล มูลค่า 8,300--พระทุกองค์มีหมายเลขและโค้ดกำกับ ซึ่งจะทำลายโค้ดและพิมพ์หลังพิธี จึงเช่าได้มั่นใจว่าไม่มี หลวงพ่อเพิ่ม โผล่มา.....
ส่วนเครื่องราง ฯซึ่งปีนี้เป็นเทรนด์มาแรง และเพราะ วัดศรีสุวรรณ ตั้งอยู่ที่ตำบลสมอทอง ซึ่งมีตำนานความศักดิ์สิทธิ์ จนเป็นความเชื่อโบราณสืบต่อมาว่า สมอ เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคง มั่งคั่งร่ำรวย บูชาแล้วมีโชคลาภ ท่านจึงกำชับว่ารุ่นนี้ต้องสร้าง สมอทอง ซึ่งถือเป็นเครื่องรางของขลังขึ้นชื่อของท่าน กับ ตะกรุดสมอเพิ่มพูนทรัพย์ และ สมอทองเพิ่มพูนทรัพย์ ขึ้น โดยจารแผ่นชนวนมวลสารให้เอง.....
พิธีพุทธาภิเษก โดยพระเกจิสายใต้ 9 รูป จัดที่อุโบสถวัดศรีสุวรรณ 27 ก.พ.นี้ ซึ่งหลวงพ่อจะแจกวัตถุมงคลแก่คนไปร่วมพิธี.....
เหรียญสรงน้ำ และไก่ฟ้า ล่ำซำ หลวงปู่สรวง แห่งวัดถ้ำ พรหมสวัสดิ์ ลพบุรี .
อีก รุ่น ก็ของพระเกจิภาคกลางชื่อดัง คือ หลวงปู่สรวง แห่งวัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ลพบุรี ซึ่งมีอายุครบ 80 ในปีนี้ เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ลูกศิษย์จึงจัดงานฉลอง เพราะถือว่าการที่มีอายุยืนยาวมาถึงบัดนี้ เป็น อายุวัฒนมงคล.....
ตามธรรมเนียม เหมือนฆราวาสฉลองแซยิด ก็ต้องมีของชำร่วยที่ระลึก ของพระสงฆ์ก็นิยม จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก ซึ่งในครั้งนี้ ท่านได้งัดวิชาด้านโภคทรัพย์ มาจัดสร้าง ไก่ฟ้าล่ำซำ ขึ้น โดยเอาจุดดีของไก่ ที่ขยันคุ้ยเขี่ยหากิน มาเป็นเคล็ดในการสร้าง ไก่ฟ้าล่ำซำ ว่าถ้าขยันทำกินเหมือนไก่ ก็ไม่มีอด และย่อมมีอนาคตร่ำรวย.....
ใน รุ่น มี เหรียญไก่ฟ้าล่ำซำ และ เหรียญสรงน้ำ จัดสร้างอย่างละนิดหน่อย เลยไม่มีให้จองที่อื่น นอกจากที่วัด
อีกข่าวมาจาก เสี่ยเอก–ศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ เจ้าของโรงแรมศิริปันนา วิลลา รีสอร์ทแอนด์ สปา เชียงใหม่ ซึ่งฝักใฝ่พุทธศาสนา และรักการสะสมพระเครื่องสุดขั้ว จึงร่วมกับ อาจารย์พรชัย ใจมา ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ปี 2548 จัดงาน จากล้านนาสู่พุทธคยา เพื่อประมูลผลงานศิลปินเมืองเหนือ และนำรายได้ไม่หักอะไรเลย ไปสมทบทุน หุ้มทองคำยอดฉัตร ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ที่รัฐพิหาร ณ อินตระเดีย.....
เปิดงาน 20 ก.พ.นี้ 15.00 น. และจัดไปถึง 24 ก.พ. .....
เรื่อง ลาอารมณ์ดี เป็นเรื่อง ลุงแซม วัย 65 ซึ่งไปขายปลาตู้อยู่ที่สิงคโปร์มา 20 กว่าปี เพราะมีเมียเป็นสิงคโปเรี่ยน แต่โชคดีที่ปีก่อน เมียขี้เกียจหายใจเลยเด๊ดสะมอเร่ไปเองโดยที่ ลุงแซม ยังไม่ทันวางแผนฆาตกรรม--ลุงแซม เบื่อญาติเมีย จึงกลับมาอยู่เมืองไทย พร้อมเงินที่แอบหลบเมียไว้ 10 ล้านบาท กะเปิดกิจการขายปลาตู้ต่อ--แต่ขาดเงินอยู่สองล้าน กู้แบงก์ก็ไม่ได้ เพราะอายุเกิน 60.....
วันก่อนผ่านร้านพระ เลยแวะไปดู แล้วเห็น พระเครื่อง หลวงพ่อปาน ก็นึกได้ว่า มี พิมพ์ขี่ปลา ที่ให้หลานเช่าส่งไปให้เรื่อยๆสิบกว่าองค์ เพราะขายปลาตู้ ก็เลยเก็บ พิมพ์ขี่ปลา.....
พอถามเซียนพระว่าองค์ละเท่าไหร่ เซียนบอกว่า พิมพ์ขี่นก ถูกสุดไม่ถึงแสน พิมพ์ขี่ปลา แสนห้าถึงสองแสนห้าถ้าสวยและผงเต็ม ส่วน พิมพ์ขี่ไก่หางพวง แพงสุด เกือบล้าน เพราะเป็นพิมพ์ท็อป--แต่ราคานี้ ไม่รวมตลับทองคำนะ.....
ลุง แซม ตาโต อะโห ตะก่อน เช่ามาองค์ละ 2-3 หมื่นเอง เลยถามว่า ซื้อราคานี้ไหม เซียนบอกว่า ก็ราคานี้แหละ แต่อาจถูกกว่า 10-20% เพราะต้องทำกำไร ลุงแซมก็เลยเอาพระไปขาย องค์ละแสนห้าสองแสน ได้เงินไป 3 ล้านกว่า เอาไปลงทุนปลาตู้แล้วยังเหลือเป็นล้าน.....
เปิดกิจการมาสี่ห้าเดือน กิจการก็ไปได้ดี ลุงแซม ก็อยากได้พระของตัวเองคืน เลยกลับไปร้านเดิม แต่เซียนบอกว่า ขายหมดแล้วตั้งแต่อาทิตย์แรก เหลือแค่องค์เดียวเพราะคนต่อราคา เลยขี้เกียจขาย ว่าจะเอาไว้ใช้เอง ลุงแซม เลยขอซื้อ แล้วตกใจ เมื่อเซียนบอกว่า สามแสน ไม่รวมตลับ แต่ก็ต้องยอม.....
พอกลับ บ้าน นั่งดูพระแล้วก็ถอนใจเฮือกๆ จนหลานถามว่าเป็นไร ลุงแซม บอกว่า กูกะลังคิดว่า รู้งี้ ไปขาย พระหลวงพ่อปาน ดีกว่า เพราะขายปลาตู้เป็นล้านๆตัว ได้กำไรไม่ถึงแสน แถมเหนื่อยยากคอยให้อาหาร เช็กระบบน้ำ ระวังปลาตายอีก สู้ขาย ปลาหลวงพ่อปาน ไม่ได้ ไม่ต้องให้อาหาร แถมขายแค่ ตัวเดียว กำไรเป็นแสนเจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น