สนามพระ สนามพระเครื่อง 20/01/56

สนามพระ สนามพระเครื่อง 20/01/56

พระสมเด็จฟ้าผ่า เนื้อเขียว หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์.

เข้าสนามพระวิภาวดี เวอร์ชั่นปกติกันตั้งแต่อาทิตย์นี้ พบ สีกาอ่าง เป็นปีที่ 17.....

ดู ตัวเลขเหมือนจะมาก แต่โทษที แค่ 17 ปีในวงการพระถือว่าพรรษาน้อยมั่ก ดังนั้น เราก็คงต้องเจอะเจอกันต่อไป จนกว่าข้าพเจ้าจะหมดมุกโม้.....

ตาม ที่บอกกันว่าปีนี้เป็นต้นไป พระสมเด็จ ของ สมเด็จ (โต) วัดระฆังฯ จะหายากและแพงมากขึ้น 30-50% นั้น ก็เป็นความจริงทันที เพราะ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ องค์แรกที่มาให้พรท่านผู้ชมแฟนคลับสนามพระวิภาวดีอาทิตย์แรกปีมะเส็ง เสี่ยพงษ์ ลีฬหา ส่งข่าวมาว่าเพิ่งเช่าได้เป็นองค์ส่งท้ายปีเก่า ในราคา 15 ล้าน.....

พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังฯ ของพงษ์ ลีฬหา ราคา 15 ล้าน.

ดู แล้วก็แพงเหมาะสม เพราะสวย มีดีครบเครื่อง ทั้งฟอร์มทรงที่ได้สัดส่วน พิมพ์พระที่แม้ไม่ลึกมากแต่ติดชัดสม่ำเสมอ เนื้อมวลสารเข้มข้นส่วนผสมเข้มข้นครบสูตร นี่ถ้าไม่มีตำหนิเล็กน้อย ที่ปลายมุมล่างด้านซ้ายมือ (ซึ่งที่จริงแล้วไม่เสียหาย เพราะรอยชํารุดแทบมองไม่เห็น และอยู่นอกซุ้ม ถือว่าไม่เกี่ยวกับองค์พระ) ราคาที่ เสี่ยพงษ์ กล้าซื้อมาตอนปีเก่า ก็ต้องมั่นใจว่าปีใหม่ได้กำไรแน่.....

องค์ที่สอง ตะลึงกันไปเรยย์ เพราะ พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง วัดนางพญา พิษณุโลก “กรุวังหน้า” องค์นี้ระดับ งามลํ้าเลิศ ด้วยความคมชัดของพิมพ์พระ โดดเด่นที่การตัดขอบได้สัดส่วนดูเรียบร้อยงามตา ทําให้องค์พระดูมีมิติ และยังสูงค่าด้วย “รักทอง” ที่ยังสมบูรณ์ 100 %.....

พระนางพญา ค้นพบเมื่อปี 2444 คราว ร.5 เสด็จประพาสหัวเมืองทางเหนือและประพาสพิษณุโลกด้วย ทางวัดจึงปรับพื้นที่เตรียมสร้างพลับพลารับเสด็จที่วัดนางพญา ตอนขุดหลุมฝังเสา จึงพบพระพิมพ์เนื้อดินเผาพิมพ์สามเหลี่ยม ศิลปะอยุธยา หลายพิมพ์หลายขนาด.....

เจ้าอาวาสจึงเก็บรวบรวมไว้ และคัดพระนำขึ้นถวาย ร.5 ซึ่งแน่นอนว่า พระที่จะนำขึ้นถวาย พระเจ้าแผ่นดิน ย่อมต้องสวยสุดสุดสวย ซึ่ง ร.5 ได้พระราชทานพระนางพญาแก่ผู้ตามเสด็จฯและนำส่วนหนึ่งกลับไปพระนคร.....

พระนางพญา พิมพ์เข่าโค้ง วัดนางพญา พิษณุโลก "กรุวังหน้า" ลงรักปิดทอง องค์สวยหยด ของ พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร.

หลัง จากพบพระครั้งนั้นแล้ว ต่อมาก็มีการพบพระนางพญาในบริเวณวัดอีกหลายครั้ง รวมทั้งพบในองค์พระเจดีย์ที่ทรุดจมอยู่ริมน้ำหน้าวัด องค์พระจึงแช่น้ำอยู่นาน เมื่อนำขึ้นมาตากจนเนื้อพระแห้ง ปรากฏพระนางพญาลอตนี้ มีเม็ดแร่กรวดปรากฏบนผิวเพราะผิวเนื้อมวลสารถูกน้ำเซาะไป จึงเรียกว่า กรุน้ำ.....

จากนั้นในปี 2479 ได้พบ พระนางพญา นับร้อยองค์ บรรจุอยู่ในบาตร ซึ่งอยู่ในพระเจดีย์องค์เล็ก ที่วัดอินทร์ พระทุกองค์งดงามด้วยการ ลงรักปิดทอง และยังพบที่กรุวัดเลียบ ราษฎร์บูรณะ และบริเวณที่เคยเป็นวังหน้า วัดสังขจาย และครั้งสุดท้าย มีขึ้นที่กรุวัดราชบูรณะ พิษณุโลก.....

สำหรับพระที่มีการ ลงรักปิดทอง ซึ่งพบตามกรุในกรุงเทพฯ ล้วนแต่มีสภาพสมบูรณ์สวยงาม ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นพระที่ ร.5 ทรงนำกลับมาจากตอนเสด็จพิษณุโลกครั้งโน่นและโปรดให้บรรจุไว้ตามวัดต่างๆ โดยให้ช่างหลวง ลงรักปิดทอง พระที่มีสภาพสวยงาม ก่อนพระราชทานไปตามวัดต่างๆ.....

พระนางพญา ลงรักปิดทองเก่า องค์นี้ จึงสวยเพอร์เฟกต์ จนทำให้ พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร ย่องเงียบ ไปนิมนต์มาจําวัดที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลตอนส่งท้ายปีเก่าเหมือน กัน.....

ผู้ชํานาญการเห็นแล้วยอมรับว่าเป็น พระหน้าใหม่ ในวงการจริง และความงามก็เกินหน้าองค์แชมป์ๆ เกือบทุกองค์--“พี่หนอง” ให้ภาพพร้อมข้อมูล โดยไม่บอกราคา แต่ประเมินกันว่า 15 ล้านน่าจะเหมาะสมกับพระหน้าใหม่ที่สวยสะใจขนาดนี้.....

พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี เช่ากันไป 6 ล้าน.

ต่อ ไป คือ พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี องค์นี้จําได้ว่า เสี่ยกําพล วิระเทพสุภรณ์ นิมนต์ไปเกือบสองปีแล้ว แต่วันนี้ชื่อเจ้าของคือ เฮียอั้ง เมืองชล บอกว่าจัดการย้ายวิกเรียบร้อยแล้ว ในราคา 6 ล้านกว่าๆ.....

อย่างที่บอกไว้ว่า ให้เก็บพระสมเด็จตระกูลรองๆไว้ วันนี้เลยขอเสนอ พระสมเด็จฟ้าผ่า เนื้อเขียว หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์.....

องค์ นี้เขียวจริง เพราะมีส่วนผสมของสีทาพระอุโบสถ รุ่นนี้มีหลายสี ขาว เหลือง เขียว ฯลฯ จํานวนการสร้างสีละประมาณ 200 องค์ ปัจจุบันองค์สวยแจ่ม สีจัดๆแบบองค์นี้ ราคา แสนอัพ เป็นเรื่องเฉยๆ.....

หลวงพ่อพรหม เกิดปี 2426 ที่ อ.มหาราช อยุธยา เป็นศิษย์หลายอาจารย์ คือ หลวงพ่อถม วัดเขียนลาย อาจารย์ฆราวาส ชื่อ อาจารย์พ่วง และ อาจารย์ปู่วอน หลวงพ่อดำ.....

หลวงพ่อพรหม ศึกษาด้าน อสุภกรรมฐาน คือการพิจารณาสิ่งที่ไม่สวยงามสกปรกเหม็นเน่าสะอิดสะเอียน ซึ่งยากมากที่ใครจะสำเร็จ เพราะต้องเพ่งดูศพลักษณะอุจาดตา 10 ขั้น เช่น อุทธมาตกอสุภ ศพคนตายที่กำลังขึ้นอืด วิฉิทททกอสุภ ศพขาดสองท่อน วิปุพพกอสุภ ศพที่กำลังน้ำเหลืองไหลเยิ้ม ฯลฯ.....

ทั้งนี้ เพื่อให้ปลง ปราศจากกิเลสราคะจริต เพราะรู้แจ้งว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา เราไม่มีในร่างกายนี้ ร่างกายนี้ไม่มีในเรา-ฟังแล้วยาก แต่สุดท้ายก็คือคำสอนพระพุทธเจ้าที่บอกว่า อนิจังวัฏสังขาราสังขารไม่เที่ยง ซึ่งถ้าลึกซึ้งแล้ว ย่อมไม่กลัวเกรงต่อความตาย เพราะ เกิดแก่เจ็บตาย เป็นเรื่องที่ใครก็หนีไม่พ้น.....

หลังบวช ท่านได้ออกธุดงค์ เดินข้ามป่าเขาไปถึงพม่า ขากลับท่านไปพบสถานที่ที่เหมาะกับการเจริญวิปัสสนา จึงได้หยุดอยู่ที่นั่น และเริ่มสร้างวัดช่องแคขึ้น เมื่อ พ.ศ.2460.....

หลวง พ่อพรหม บวชนาน 71 พรรษา และมรณภาพเมื่ออายุ 91 ปี โดยได้ทิ้งวัตถุมงคลที่จัดสร้างไว้มากมาย รวมทั้ง พระสมเด็จรุ่นฟ้าผ่า เพราะมีคนใช้บูชาแล้วถูกฟ้าผ่าแต่ไม่ตาย.....

รูปเหมือนลอยองค์หลวงปู่ทวด ฐานบัวรอบ พ.ศ.2508 ของ เซ้ง มณเฑียร.

ถัด ไปคือ รูป เหมือนลอยองค์หลวงปู่ทวด ฐานบัวรอบ พ.ศ.2508 ของ เสี่ยเซ้ง มณเฑียร รุ่นนี้มาเรื่อยๆไม่แรงหวือหวา แต่ซื้อง่ายขายคล่อง หลักหมื่นปลายๆ.....

อีกองค์เป็นพระกรุพระเก่าเก๋า พระท่ากระดาน กรุ (เก่า) ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี พระเครื่องยอดขุนพลเนื้อตะกั่วสนิมแดง ศิลปะอู่ทอง ยุคต้น ค้นพบครั้งแรกที่กรุถํ้าลั่นทม พร้อมแม่พิมพ์พระและเศษตะกั่ว พร้อมหลักฐานว่าสร้างไว้โดยพระฤาษี แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม.....

ต่อมามีการค้นพบพระพิมพ์เดียวเนื้อ เดียวกันได้ในกรุพระเครื่องที่อยู่ในเขต ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี มีผู้นําไปใช้ได้เห็นพุทธคุณคงกระพันชาตรี จึงมีชื่อเสียงเป็นพระกรุหมายเลข 1 ของเมืองกาญจน์ ฉายา“ขุนศึกแห่งลุ่มนํ้าแม่กลอง”--องค์นี้ของ กํานันมานะ คงวุฒิปัญญา.....

พระท่ากระดาน กรุ (เก่า) ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี ของกํานันมานะ คงวุฒิปัญญา.

สุด ท้ายคือ พระพุทธรูปจำลององค์หลวงพ่อพระประธาน วัดระฆังฯรุ่น 100 ปี พ.ศ.2515 สร้างขึ้นในวาระครบวันมรณภาพ 100 ปี ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นพระดีพิธีใหญ่ที่อาราธนาพระเกจิอาจารย์แห่งยุค 108 รูปเข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดระฆังฯ ปัจจุบันจึงมีราคาค่าความนิยมสูงถึงหลักแสน.....

พระพุทธรูปพระประธาน วัดระฆังฯรุ่น 100 ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) 2515.

เข้า สนามพระใหม่ ที่ปีนี้แต่ละสำนักเปิดตัววัตถุมงคลรุ่นดีพิธีใหญ่กันมาอย่างน่าสนใจทั้ง นั้น รายการแรกคือ สุดยอดอิธิวัตถุมงคลต้นกำเนิดหมื่นยันต์ พ่อท่านคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง พัทลุง ศิษย์ไสยเวทพุทธาคมแห่งสำนักตักศิลาเขาอ้อ รุ่น มั่งมีศรีสุข ซึ่ง สีกาอ่าง ชอบมากเพราะเนี้ยบ ดูแล้วขลังเลย ทั้ง เหรียญปั๊มพ่อท่านคล้อย พิมพ์หลังเตารีดย้อนยุค และ เหรียญปั๊มมหายันต์.....

พ่อท่านคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง พัทลุง รุ่นมั่งมีศรีสุข สร้างได้เนี้ยบกริบ.

ทุกราย การมีโค้ดและหมายเลขกำกับ จัดสร้างน้อย และกำหนดอธิษฐานจิตปลุกเสก ณ มณฑลพิธีอุโบสถวัดภูเขาทอง โดยพ่อท่านคล้อย และเกจิอาจารย์สายเขาอ้อล้วนๆ 9 รูปร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก ในวันที่ 19 ก.พ. เวลา 13.09 น. เพื่อสมทบทุนสร้างหอระฆังและมณฑป ประดิษฐาน รูปเหมือนพ่อท่านคล้อย เท่าองค์จริง--แฟนพันธุ์แท้เขาอ้อไม่ควรพลาด สอบถามที่วัดภูเขาทอง 08-6293-8900 และ 08-6321-5548 ปิดรับจอง 15 ก.พ. และรับวัตถุมงคลได้ตั้งแต่ 2 มี.ค. .....

อีกรุ่น ที่จะพุทธาภิเษก 30 ม.ค.นี้ คือรุ่น เมตตา ของ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) ผู้เปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งความเมตตาธรรม เป็นที่นับถือและเคารพบูชาเพราะมุ่งการบำเพ็ญเพียร สร้างประโยชน์สุขอยู่ตลอดเวลา.....

ตอนจัดพิธีบวงสรวงและเททองนำฤกษ์ ณ วัดบ้านไร่ เมื่อ 6 ธ.ค.ปีก่อน ก็สร้างความฮือฮา เพราะ หลวงพ่อคูณ มอบชนวนโลหะที่ปลุกเสกเดี่ยว และ ตะกรุดทองคำ หรือ ตะกรุดท้องแขน ซึ่ง ปลุกเสกทุกเสาร์ห้า ของทุกปี และไม่เคยมอบให้ใครเลย มาเป็นชนวนเททองถึง 100 ดอก ทำให้ศิษยานุศิษย์เชื่อมั่นศรัทธาเป็นทวีคูณว่ารุ่นนี้ขลังแน่.....

รุ่น เมตตา จัดสร้างหลายแบบ ได้แก่ พระบูชา เหรียญรูปไข่ ครึ่งองค์ เหรียญรูปไข่ ครึ่งองค์ จีวรคลุม เหรียญรูปไข่เต็มองค์ และเพื่อให้ทุกคนได้บูชาทั่วถึง หลวงพ่อคูณ จึงอนุญาตให้คณะกรรมการ เปิดจองที่ธนาคารออมสินทั่วประเทศ และที่ 0-2521-4257, 08-6534-1878, 08-1246-3005 เพื่อนำรายได้จัดสร้างอาคารศูนย์ “หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่เขื่อนลำตะคองอำเภอสีคิ้ว นครราชสีมา—หลังพิธีมหาพุทธาภิเษก จะเปิดให้รับวัตถุมงคลได้ตั้งแต่ 1 ก.พ. .....

วัตถุมงคลรุ่นเมตตา ของ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มีชนวน ตะกรุดท้องแขน เสาร์ห้า.

ส่ง ท้ายกันด้วยเรื่องที่ สีกาอ่าง เจอจนชิน เพราะมักจะมีพรรคพวกไหว้วานให้ช่วยดูพระให้ผู้ใหญ่ ซึ่งมีทุกระดับ ตั้งแต่ใหญ่มากใหญ่มากๆ เพราะแต่ละท่านก็มักจะได้ พระเครื่อง จากผู้ที่มาขอความช่วยเหลือ จนมีกันเป็นร้อยๆองค์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพระอะไรมั่ง.....

ก็เลยไหว้วานผ่านมาให้ สีกาอ่าง ไปช่วยเช็ก ซึ่งข้าพเจ้าก็ต้องไปขอร้องให้ ผู้เชี่ยวชาญ ไปช่วยดู เพราะตัวเองไม่ได้มีอาชีพซื้อขายพระเครื่อง นานๆทีถึงจะมีคนคุ้นเคยให้ช่วยหาพระให้ ซึ่งนับแล้วก็ปีละองค์สององค์ จึงไม่กล้าที่จะไปชี้ขาดว่าแท้หรือเก๊.....

ว่าแล้วก็จะเล่าถึงปลัด จังหวัดท่านนึงที่เพิ่งเกษียณ ตอนอยู่ในตำแหน่งก็มีคนให้พระเยอะแยะ เลยรื้อพระมาดูว่ามีอะไรมั่ง และบอกคุณนายกับลูกให้คิดจะทำยังไงกับพระ ซึ่งเลี่ยมตลับทองฝังเพชรพราว.....

ท่านปลัดคิดอยู่แล้วว่า พระคงไม่แท้ แต่ตลับทองฝังเพชรน่ะน่าสนกว่า เลยถามลูกเมียว่าจะทำยังไง เพราะพระคงไม่ได้ใช้ คุณนายก็เลยบอกว่า งั้นเอาตลับทองฝังเพชรไปขายเถอะ พระให้ลูกไปทุกคนก็ตกลงตามนั้น คุณนายดีใจมาก ที่จะได้เงินก้อนใหญ่ เพราะตลับทองฝังเพชรก็มีตั้งสิบกว่าอัน แล้วยังมีตลับทองอีกหลายสิบ รวมแล้วหนักไม่ต่ำกว่า 100 บาท เพราะตลับอันนึงต้องใช้ทองหนัก 2-3 บาท ส่วนลูกชายก็เอาพระไปสนามพระ ให้เซียนดูและตีราคา.....

ตอนเย็น พอลูกเมียกลับมา ท่านปลัดถาม พระแท้ไหม ลูกบอกว่า แท้ แต่ไม่ดีเพราะเป็นพระใหม่ ราคาไม่แพง ส่วนคุณนายอารมณ์เสียมาก ฝันสลายไม่ได้ซักบาท เพราะตลับเก๊ทั้งทองทั้งเพชร.....

เรื่องนี้บอก ให้ข้าราชการบิ๊กๆรู้ว่า ก่อนเกษียณใครให้พระ สิ่งที่ต้องทำเลยคือ เช็กว่าแท้หรือเก๊ (และต้องเช็กตลับด้วย) เพราะถ้ารู้หลังเกษียณอย่างท่านปลัด ทำได้อย่างเดียว คือ ทำใจ เจ้าค่ะอามิตตพุทธ.