สนามพระ สนามพระเครื่อง 31/12/55 พระเครื่อง เรื่องราว ข่าวดัง ปีมังกร

สนามพระ สนามพระเครื่อง 31/12/55 พระเครื่อง เรื่องราว ข่าวดัง ปีมังกร

เชียงแสนสิงห์หนึ่ง 7 ล้าน



ตลอดปี 2555 ที่เต็มไปด้วยปัญหา เริ่มตั้งแต่ต้นปี ก็ได้รับผลกระทบ จากน้ำท่วมปี 2554 ต่อด้วยปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ อึมครึมทุกระยะ แต่ยังถือว่า วงการวัตถุมงคล ได้รับแรงสั่นสะเทือนแค่กลางๆ 2-3 ริกเตอร์.....

เพราะมีคนสนใจ ศึกษาสะสมซื้อขายมากขึ้น ทำให้มีกำลังประคองตัว อยู่กันเอง ได้ พระหลักแสนหลักล้านยังซื้อขายคล่อง ไม่ถึงกับหยุดนิ่ง.....

ปัญหา จริงๆกลับอยู่ที่ จำนวนพระเครื่อง ที่น้อยลงมาก ส่งให้พระเครื่องยอดนิยมแพงขึ้นน่าตกใจ ประมาณ 30-50% ซึ่งถือว่าแรงและเร็วกว่าหุ้นและทองคำ.....

ยิ่งเป็น พระสมเด็จ วัดระฆังฯ จะสวยมากสวยน้อย ขึ้นรวดเกิน 100% ทุกพิมพ์ ส่วน พระสมเด็จบางขุนพรหม พระสมเด็จเกศไชโย ก็แพงตามไปติดๆ.....

ทำให้เกิดแรงสะท้อนถึง พระเครื่องยุคหลัง จนพากัน มาแรงแพงเร็ว อย่างคาดไม่ถึง เพราะนักสะสมหันไปเช่าบูชาทด- แทน.....

จากบรรยากาศ พระแพง หายาก แต่ออเดอร์มาก ก็ทำให้เกิดปัญหาระหว่างบุคคลในวงการวัตถุมงคล อย่างแตกหัก ไปด้วย.....

ทีม สนามพระวิภาวดี จึงรวมเรื่องราวข่าวดังในปีที่กำลังจะผ่านไป เพื่อท่านผู้อ่าน อาจใช้เป็นข้อมูลใน การศึกษาสะสมวัตถุมงคล รวมทั้ง เรียนรู้เท่าทัน วงการพระ ที่มีหลายรูปแบบ.....


ข่าว แรก ออกอาการมาตั้งแต่ปีก่อน เพราะ เสี่ยเล็ก ตังเจริญ เจ้าของร้านเครื่องไฟฟ้า เข้ามามีชื่อว่าเป็น มือซื้อ คนโปรดเซียนพระ เพราะสไตล์ ซื้อเร็ว จ่ายเลย เงินสด.....

ไม่ถึงปี เสี่ยเล็ก ก็คุ้นทุกสนาม ในฐานะ ลูกค้ารายใหญ่ แม้ระยะหลังๆจะจ่าย เช็คแทนเงินสด ทุกคนก็โอเค เพราะถือว่า ได้กําไรคุ้ม จากราคาพระที่ตั้งเผื่อ ไว้.....

พอ ไม่ต้องจ่ายสด และไม่มีใครงดเชื่อ เลยทำให้ เสี่ยเล็ก เขียนเช็คซื้อพระเพลิน โดยลงวันที่ล่วงหน้าเป็นเดือน.....

เรื่อง มาแดง เมื่อเซียนพระรุ่นใหญ่ นำเช็คไปขึ้นเงิน แต่แบงก์ ปฏิเสธการจ่าย จึง ตามเคลียร์ แบบเงียบๆ ทำให้ เสี่ยเล็ก ต้องใช้วิธี ซื้อองค์ใหม่ ไปขาย หาเงินจ่ายองค์เก่า โดยเขียนเช็คล่วงหน้าหลายเดือน ซื้อพระจาก เซียนกลุ่มใหม่ โดย ไม่เกี่ยงราคา.....

วิธีนี้ แก้ปัญหาได้ระยะเดียว แต่สุดท้าย ก็ ไปไม่รอด เมื่อเช็คทุกใบพร้อมใจกัน เด้ง โดนกันทั่ว ทุกสนาม เป็นเงินนับ ร้อยล้าน.....

แม้ เซียนจะพยายามเคลียร์กันเอง แต่ก็ไม่จบ เซียนน้อยใหญ่นับสิบคน เลยรวมตัวไปร้องเรียน ดีเอสไอ ให้เอาผิด ฐานฉ้อโกง แต่ได้รับคำแนะนำว่าให้ไปฟ้อง คดีอาญา.....

เรื่องนี้ ถือว่า สะเทือนวงการ มีผู้เสียหายมากสุด และวงเงินสูงสุด ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องบันทึกไว้กันอัลไซเมอร์.....

ต่อ ด้วยเรื่องระหว่าง เสี่ยเช็ง สุพรรณ เซียนพระรุ่นใหม่ ที่สร้างชื่อด้วยสไตล์ ซื้อแรง ขายแรง จนครองตำแหน่งเซียนพระ มือทอง มา 2-3 ปีแล้ว.....


เพราะ นิยมเล่นแต่พระหลักยอดนิยมองค์ยอดๆ ราคาหลักล้านสิบล้าน ยิ่งองค์มีชื่อเสียงมากๆราคาหลายสิบล้านยิ่งชอบ เพราะมีลูกค้ารองรับหลายราย รวมทั้ง เสี่ยสุขสันต์ ตั้งสะสม นักนิยมพระชื่อดัง ซึ่งจับคู่ซื้อขายกันแบบคนรู้ใจ อะไรก็หยวนๆกันมายาวนาน.....

จนกลายเป็นร่วมเล่นร่วมลงทุน องค์ไหนไม่ชอบใจ คนซื้อก็จ่ายบางส่วน คิดว่ารับขายฝากไว้ก่อน แต่ไม่คุยกันให้จบเป็นองค์ๆไป.....

ฝ่าย เสี่ยเช็ง ก็เข้าใจว่า ขายขาด เพราะรับเงินมาแล้ว แม้ไม่ได้เต็มจำนวน แต่ไม่ถึงกับขาดทุน ก็โอเค คิดว่าเป็นที่ พักพระ เอาแค่ทุน ไปต่อทุนก็ยังดี ฝ่าย คนซื้อ ก็เข้าใจว่า ตัวเอง รับฝากพระ ไว้ เพื่อกิน ดอกเบี้ย.....

แต่ นานๆไปเงินที่ต้องซื้อพระทีละ 20-30 ล้าน ก็ทำให้ขาดสภาพคล่องบ้าง บางครั้ง เสี่ยสุขสันต์ เลยต้องเอาพระที่ซื้อไว้ ให้ เสี่ยเช็ง เอาไปขาย เพื่อเอาเงินมาหมุนซื้อพระองค์ใหม่--ก็จุดเทียนวนเวียนจำนำซื้อขายกันอยู่ อย่างนี้ จนไม่รู้ใครเป็นหนี้ใคร....

เสี่ยสุขสันต์ ก็ว่า เสี่ยเช็ง เป็นหนี้พร้อมดอกเบี้ยราว 300 ล้าน แต่ เสี่ยเช็ง ก็ว่า เสี่ยสุขสันต์ เป็นหนี้ เพราะยังจ่ายค่าพระไม่หมด กับเช็คที่จ่ายมาแล้วมีปัญหา ซึ่งรวมแล้ว ยอดหนี้พอๆกัน.....

เงินมหาศาลขนาดนี้ จึงเคลียร์กันไม่ลงตัว ทั้งสองฝ่ายเลยต้องหา คนมาเคลียร์ ซึ่งลดแรงปะทะไว้ได้แค่ ชั่วคราว จึงต้องติดตามตอนต่อไปว่าจะจบด้วยสันติหรือสงคราม .....

ข่าวดังต่อ ไป เป็นข่าวดี คือการซื้อขาย พระหลวงปู่ทวด หลังเตารีด วัดช้างให้ แบบยกลอต ซึ่งมีสตอรี่ว่าเซียนสายใต้ เสี่ยลิ้ง-บุญส่ง   ธาดาประดิษฐ์ แนะนำให้รังพระ ชื่อก็อด เอาไปให้ เสี่ยวิวัฒน์ เฮดเดอร์ ซึ่งติดต่อผ่านไปที่ เจ้าสัววิชัย รักศรีอักษร และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่ง บิ๊กออฟ–เพรียวพันธ์ สนใจ แต่ไม่อยาก ยกลอต เลยไม่ซื้อ.....



แต่ บังเอิญ การสื่อสารกับ คิงเพาเวอร์ ขาดๆหายๆ เสี่ยก็อด รอไม่ได้ เลยเอาไปขายเอง แต่สนามพระบอกว่า แพงเว่อร์ เพราะ เสี่ยก็อด ตีราคาไว้องค์ละ 3-5.5 ล้าน ไม่ถึง ร้อยองค์ ตั้งราคาไว้ 80 ล้าน.....

จน ไปเจอกับ บิ๊กแป๊ะ–พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา พระลอตนี้ ก็เลยถูกส่งไปให้ เจ้าสัวคิงเพาเวอร์ ดูองค์จริง--แล้วก็ตกลงซื้อขายกันในราคา 60 ล้าน!!.....

องค์ ยอดๆมี พิมพ์เตารีดพิเศษ ตอกโค้ด ฉ ที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร เทไว้ ทั้งแบบ ฉ 1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว และยังมี ฉฉฉฉ 4 ตัว องค์แชมป์โลก.....

นอกนั้น ก็มี พิมพ์เตารีดเล็กอาปาเช่  อีกกล่อง ราคาองค์ละ 2-3 แสน....

ถือ เป็นการสร้างสถิติ ซื้อแรง จ่ายเร็ว อีกครั้งของ รัง คิงเพาเวอร์ ที่ ถูกชะตา กับ ของแพง มั่ก ที่ผ่านมา จึงไม่เคย ซื้อถูก เล้ย.....

ส่วน ความเคลื่อนไหวของพระเครื่องที่ตูมตามเป็นพิเศษของปีนี้ ส่วนใหญ่เป็น พระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ ที่ปีนี้มีเข้าสนาม 4-5 องค์ ล้วนตั้งราคา หลายสิบล้าน.....

แต่องค์ล่าสุดที่มีการซื้อขายจริง เป็นพระหน้าเก่า ที่มีฉายาว่า องค์ราชา เพราะสิบปีก่อน เจ้าของโรงแรมราชา ขอนแก่น ซื้อไป 20 ล้าน ก็ฮือกันสนามแทบแตกว่า ซื้อพระ โคตรแพง.....
วิชัย คิงเพาเวอร์

วิชัย คิงเพาเวอร์

พล.ต.อ.สนอง  วัฒนวรางกูร

พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร

แต่ ถึงวันนี้ กลายเป็น  แพงโคตรๆ ไปแล้ว เมื่อ เสี่ยเช็ง สุพรรณ ที่ยังเดินหน้าลุยเล่นพระต่อ จ่ายตังค์ 40 ล้าน นิมนต์พระสมเด็จองค์นี้มาแล้วเรียบร้อย และยังโชคดีส่งท้ายปีเก่าได้ พระสมเด็จ พิมพ์เจดีย์ องค์ใหม่ล่าสุด มาในราคา 20 ล้าน ที่คนในวงการเห็นแล้วออก ปากชมว่าสวยเทียบชั้นกับองค์ เจ๊แจ๋ว ที่ครองตำแหน่งแชมป์ตลอดกาลได้สูสีที่สุด.....

อีกสำนัก คือ รูปเหมือนจำลองหล่อโบราณ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ทั้ง พิมพ์นิยม พิมพ์ขี้ตา ยังครองตำแหน่งพระแพงที่ขึ้นราคาไม่มีหยุด มาเป็นปีที่ 5.....

องค์ สวยล่าสุดที่ผ่านเข้าสนามพระวิภาวดีฯปีนี้ คือ พิมพ์นิยม ของ พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร ซื้อมาราคา 5 ล้าน ราคาขายยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะบวกกําไรเท่าไร ส่วน พิมพ์ขี้ตา เป็นของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์ ซื้อมาเท่าไรไม่บอก แต่ขายออกไปในราคา 5 ล้านแน่นอน แถมด้วย เสี่ยพรรค ยังปล่อย พระบูชาเชียงแสนสิงห์หนึ่งองค์สวยสุดแห่งปีไปอีกองค์ในราคา 7 ล้าน.....

และ ที่ตกตะลึงกันทั้งบาง คือ พระเครื่องหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง ซึ่งยังเป็นพระเครื่องเกจิฯ ยุคกลาง แท้ๆ แต่สร้างกระแสเล่นหาร้อนแรงกว่าพระเก่าอายุร้อยปีอีกหลายวัด เพราะ พระกริ่งชินบัญชร เนื้อทองคำ ราคาปาเข้าไป เกือบ 10 ล้าน ส่วน พระกริ่งญาณวิทยาคม หลวงพ่อคูณ เนื้อทองคำ องค์งามๆสภาพเยี่ยมๆก็ไม่น้อยหน้า เรียกราคา หลายๆล้าน เหมือนกัน.....


สุด ท้าย ทุกครั้งก่อนลากัน สีกาอ่าง ก็ต้องมีเรื่องขำๆมาให้ฮาเป็นที่ระลึก สนามพระวิภาวดี ซึ่งเป็น อาทิตย์สุดท้ายของปีนี้ จึงขอ ส่งท้ายปีเก่า ด้วยข่าวดังฮาสุดแห่งปี แต่เซียนพระฮาไม่ออกกันค่อนสนาม.....

สาเหตุมาจากถูก กรมสรรพากร เข้าไปตรวจสอบบัญชีธนาคาร จึงเรียกตัวไปสอบถาม ว่าเงินผ่านบัญชีเป็นสิบๆ ร้อยๆล้านนี้ ท่านได้แต่ใดมา.....

เซียน พระ ก็บอกไปตามความเป็นจริง ว่าเป็นเงินซื้อขายพระ ซึ่งมีทั้งเซียนพระด้วยกันหุ้นกันซื้อและโอนเข้ามารวมไว้ หรือไม่ก็คนที่สั่งซื้อพระโอนเข้ามาให้ไปซื้อ ซึ่งองค์นึงก็หลายล้าน บางทีเป็นสิบล้าน เงินก็เลยดูว่าเข้าบัญชีเยอะ แต่ หักลบจ่ายค่าพระแล้ว ไม่มีกําไรมากมาย.....

หรือบางครั้งก็ขาดทุน เพราะซื้อมาแล้วขายไม่ได้ และยิ่งเป็นเงินกู้มาซื้อพระขายได้ก็ต้องหักทุนพร้อมดอกเบี้ยคืน ก็เหลือกำไรไม่มาก.....

ถึงจะให้การ ตามสภาพที่ซื้อขายกันอยู่อย่างนี้จริงๆ แต่ไร้ผลเพราะ สรรพากร บอกว่า อยากให้ จ่ายภาษีซื้อขาย แล้วก็จิ้มตัวเลขให้ดูว่า ภาษี ณ ที่จ่าย ที่คำนวณจาก จำนวนเงินที่เข้าบัญชี ซึ่งถือว่า มีการซื้อขาย จะต้องช่วยชาติคนละ เท่าหล่าย.....

เซียนใหญ่ สายเบญจ-ภาคี เลยโดนกันไปคนละ หลายล้าน แต่รายที่ หนักสุด กลับไม่ใช่เพราะซื้อขายเยอะหรือขายเก่ง แต่เพราะชอบให้เงินเข้าบัญชีมากๆ ดูมีเครดิตดี เงินที่ผ่านบัญชีประมาณ 4-500 ล้าน เลยเป็นพิษ เพราะถูกคิดภาษีมา 25 ล้าน เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 16/02/57

สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 14/07/56