สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 24/11/56
สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 24/11/56
พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน กรุวัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง ของจุก อุตรดิตถ์.
วันนี้ เข้า สนามพระวิภา วดี ด้วยความตื่นเต้นหวาด เสียวเล็กน้อย เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นทางการเมือง ก็ได้แต่อธิษฐานภาวนา ขออำนาจพุทธคุณที่โบราณาจารย์ได้แผ่พลังจิตบรรจุไว้ในพระเครื่องทุกองค์ใน สนามพระเครื่องวิภาวดี วันนี้ เป็นพลังนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นไปได้ โดยไม่เกิดความรุนแรง สาธุ.....
พระเครื่ององค์แรก วันนี้ คือ พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน กรุวัดไชโยวรวิหาร อ่างทองของ เสี่ยจุก อุตรดิตถ์.....
พิมพ์ 6 ชั้นอกตัน จัดเป็นพระเครื่อง พิมพ์มาตรฐานอันดับสอง สภาพงามๆแบบนี้ราคาสตาร์ตขึ้น หลักล้าน หมดแล้ว.....
พระกริ่งตั๊กแตน (เขมร) บัวฟันปลา ของเฉลียว ตาดชูวงษ์.
องค์ ที่สอง คือ พระกริ่งตั๊กแตน
(เขมร) บัวฟันปลา
ที่นําเข้ามาเผยแพร่ในสยามประเทศแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา
ได้รับความนิยมสูงมาถึงยุคนี้
เพราะพุทธคุณเลื่องลือด้านคุ้มครองป้องกันแคล้วคลาด.....และยิ่ง หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง อาราธนาใช้เป็น ต้นแบบ ในการสร้าง พระชัยวัฒน์ สวมประคําของท่าน ค่านิยมจึงพุ่งลิ่ว--องค์นี้ของ เสี่ยเฉลียว ตาดชูวงษ์ เป็นพระสวยสภาพเดิมๆที่ต้องติด 5 ดาวให้ทันที.....
พระสมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศนฯ พ.ศ.2485 ของคิง มณเฑียร.
องค์ ที่สาม คือ พระสมเด็จพระครูลมูล พ.ศ.2485 วัดสุทัศนฯ กรุงเทพฯ ซึ่งมีชื่อเสียงเป็น พระสมเด็จ ที่มีรายละเอียดในพิมพ์งดงามที่สุด พระโอษฐ์ พระนาสิก พระเนตร พระกรรณ โดดเด่น.....เนื้อพระเครื่องมี มวลสารพระสมเด็จวัดระฆังฯ พระสมเด็จบางขุนพรหม และพระเนื้อผงพุทธคุณสำนักดังๆผสมอยู่มาก เพราะ พระครูลมูล สำเร็จพุทธาคม เชี่ยวชาญวิชาลบผงพุทธคุณพระ 5 ประการ เมื่อสร้างพระเองจึงนําองค์พระเครื่องที่ชำรุดมาป่น เอาผงพระมาเป็นส่วนผสม.....
ทํา ให้มีผู้นิยมนําไปใช้แทน พระสมเด็จ วัดระฆังฯ บางขุนพรหม กันมาก ไม่แพ้ พระปิลันทน์ พระหลวงปู่ภู เพราะราคาองค์งามๆประมาณองค์นี้ของ เสี่ยคิง มณเฑียร ยังอยู่ที่
หลักพันปลายๆ แพงสุดหลักหมื่นนิ้ดๆ เลยหายากชะมัด .....
พระปิดตาท้ายย่าน พิมพ์เขียด กรุวัดท้ายย่าน ชัยนาท ของเซ้ง มณเฑียร.
ต่อไปคือ พระปิดตาท้ายย่าน พิมพ์เขียด กรุวัดท้ายย่าน ชัยนาท ของ เสี่ยเซ้ง มณเฑียร.....พระกรุนี้ ถือเป็นยอดพระปิดตาบรรจุกรุ 1 เดียวของเมืองชัยนาท ที่ติดทำเนียบ ยอดขุนพลพระปิดตาเนื้อชิน อันดับ 5.....
ศิลปะ ในองค์พระ เป็นสมัยปลายอยุธยา แยกพิมพ์ตามขนาด ได้ 3 พิมพ์คือ พิมพ์จีโบ (ใหญ่) พิมพ์กลาง (กบ) พิมพ์เล็ก (เขียด) เนื้อพระที่ค้นพบมีทั้งที่เป็นแร่พลวง ชินเขียว สำริด และเนื้อผงใบลานเผา แต่ที่ได้รับความนิยมและพบมากที่สุดเป็น เนื้อแร่พลวง ซึ่งเป็นเนื้อโลหะแข็งแต่เปราะ ตกแตกง่าย เหมือนพระเนื้อแร่ เนื้อเมฆพัด.....
ประวัติผู้สร้างเลือนราง แต่พุทธคุณพระมีสูงด้านแคล้วคลาด คงกระพัน แบบ มหาอุดหยุดลูกปืน องค์ในภาพนี้ของ เสี่ยเซ้ง มณเฑียร เป็น พระพิมพ์เขียด ที่ หายากที่สุด ราคาจึงเท่าพระพิมพ์ใหญ่ หลักแสนปลายๆ.....
เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม สมุทรสงคราม รุ่นแรก 2484.
องค์ต่อไป คือ เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงครามรุ่นแรก พ.ศ.2484 1 ใน เบญจภาคีเหรียญพระเกจิอาจารย์.....หลวงพ่อคง เป็นที่รู้จักครั้งสงครามอินโดจีน เพราะศิษย์ที่เป็นทหารคล้องเหรียญท่านไปออกรบ ได้กลับบ้านแบบครบอาการ 32 ทุกคน ท่านจึงได้รับการยกย่องเป็นพระเกจิฯ แห่งสงครามอินโดจีน ในชุดสุดยอด 4 พระเกจิ จาด จง คง อี๋--เทียบกับสมัยนี้ ที่มี 4 สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ก็ต้องให้หลวงพ่อเป็น พระเกจิ 4 จตุรเทพ.....
เหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐเพชรบุรี รุ่น แม่ทัพ เนื้อทองคํา 2511 ของอั๊ง เมืองชล.
ตามมาด้วย เหรียญหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี รุ่น แม่ทัพ เนื้อทองคํา ปี พ.ศ.2511.....รุ่น นี้ พล.ท.สําราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเป็นชาวเพชรบุรี ได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อให้สร้างเหรียญ ออกในคราวงานบุญฉลองอายุ 90 ปี .....
โดย ให้กองกษาปณ์ ออกแบบปั๊มเหรียญ มีเนื้อทองแดง 84,000 เหรียญ เนื้อเงิน เนื้อทองคํา ตามจองแล้วจัดพิธีพุทธาภิเษก 5 วัน 5 คืน--ตอนเปิดให้ทําบุญบูชา วันที่ 11 เม.ย.2511 มีทหารนําไปทดลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก พอยิงซํ้าลํากล้องปืนก็แตกต่อหน้าผู้ร่วมงานทำให้คนไปบูชาเหรียญหมดพรึ่บ ท่านแม่ทัพ เลยต้องสั่งปั๊มเหรียญเพิ่ม โดยใช้แม่พิมพ์ปั๊มเหรียญทองคํา เงิน ชนิดมีดาวด้านหลังเหรียญมาเร่งปั๊มด้วย เพื่อให้เสร็จทันหลวงพ่อปลุกเสก.....
จึงนิยมเรียกว่า เหรียญแม่ทัพ หรือ เหรียญปืนแตก ค่านิยมถ้าเป็น เนื้อทองแดง ต้องไม่มีดาว แต่ถ้าเป็น เนื้อทองคํา แบบนี้ของ เสี่ยอั๊ง เมืองชล ต้องเป็น บล็อกหลังมีดาว.....
พระบรมรูปจําลอง ร.5 รุ่นป้อมพระจุลฯ 2536.
สุดท้าย ผู้ที่บูชา เสด็จพ่อ ร.5 ต้องชอบ คือ พระบรมรูปจำลอง ร.5 รุ่นป้อมพระจุลฯ พ.ศ.2536.....รุ่น นี้ปั้นจำลองแบบจากองค์ต้นแบบฉลองพระองค์จอมทัพทหารเรือเต็มยศ ที่ประดิษฐานอยู่ ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า สมุทรปราการ โดย อ.เสวต เทศน์ธรรม ปฏิมากรมีชื่อเสียงยุคนั้น นําปลอกกระสุนปืนเรือ ที่ใช้ในสงคราม มาหลอมรวม เทหล่อเป็นเนื้อ .....
พระบรมรูปมีสองขนาดใหญ่เท่าองค์จริง กับขนาดเล็กความสูง 14 นิ้ว ฐานมีปืนใหญ่ 2 ข้าง ทุกองค์ มีเลขลำดับกํากับที่ฐานด้านหลัง ยุคความนิยมเฟื่องฟู ราคาเคยพุ่งสูงถึงหลักแสน ปัจจุบันราคาค่าความนิยมลดลงมาอยู่ที่ หลักหมื่นกลางๆ จึงน่าบูชามาก เพราะคิดแค่ค่าเนื้อโลหะก็สูสี.....
วัตถุมงคลชุด เจ้าสัวอินทร์แปลง รุ่นแรกในรอบ 200 ปี วัดมหาพฤฒารามฯ.
เข้า สนามพระใหม่ ที่ยิ่งใกล้จะหมดปี ก็มีออกให้จองบูชากันหลายสำนัก รายการแรกเป็นรุ่นประวัติศาสตร์ของ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร ซึ่งจัดสร้างวัตถุมงคลชุด เจ้าสัวอินทร์แปลง ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี.....ประกอบด้วย พระกริ่ง เหรียญหล่อเจ้าสัว เหรียญเสมาอินทร์แปลง รูปหล่อเหมือนหลวงพ่อนพ สมเด็จเนื้อผงพุทธคุณ ตะขอราหูเกี่ยวทรัพย์ ที่สำคัญคือ เป็นรุ่นนี้ สมเด็จพระสังฆ-ราชฯ ทรงอนุโมทนาและประทานแผ่นทองพร้อมชนวนมวลสาร--และอัญเชิญสัญลักษณ์ ตราแผ่นดิน ตราประจำวัด ซึ่งวัดได้รับพระราชทานในสมัย ร.5 มาใส่หลังเหรียญ และก้นพระกริ่ง เพิ่มความเข้มขลังและเป็นสิริมงคล.....
พิธีเททองนำ ฤกษ์ พระกริ่งเจ้าสัว โดยมี สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เป็นประธาน พร้อมด้วยพระชั้นผู้ใหญ่ อาทิ พระพรหมเวที วัดไตรมิตรฯ, พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา, และหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู นั่งปรก จึงทำให้มีกระแสศรัทธา แรงเกินคาด.....
พิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้ง มีวันนี้ 24 พ.ย.เวลา 16.19 น. ณ พระอุโบสถ มีเกจิแห่งยุคร่วมปลุกเสก เช่น หลวงปู่ชาญ วัดบางบ่อ, หลวงปู่ฟู วัดบางสมัคร, หลวงปู่ฮก วัดมาบลำบิด, ครูบากฤษณะ วัดป่ามหาชัยฯ .....
พิเศษสุดคือ ผู้เข้าร่วมพิธี 1,000 คนแรกจะได้รับแจก เหรียญ เสมาหลวงปู่ทวด
รู้ ไว้ใช่ว่า เมื่อสมัย ร.4 ยังทรงผนวชอยู่ เคยเสด็จฯมาพระราชทานผ้าป่า ซึ่ง พระอธิการแก้ว เจ้าอาวาสวัด ได้ถวายพยากรณ์ว่า “จะได้เป็นเจ้าชีวิตในเร็วๆนี้” พระองค์จึงรับสั่งว่า “ถ้าได้ครองแผ่นดินจริงจะมาสร้างวัดให้อยู่ใหม่”.....
หลังขึ้นครอง ราชย์จริงๆ จึงทรงสร้างพระอุโบสถพระวิหารและกุฏิ แล้วสถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เพื่อเป็นเกียรติแก่ พระอธิการแก้ว ซึ่งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ พระมหาพฤฒาจารย์ และอาราธนา พระหลวงพ่ออินทร์แปลง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ทรงนำมาจากเวียงจันทน์ มาเป็นพระประธาน.....
เหรียญหลวงปู่ครูบาบุญยัง รุ่นแรก สร้างเจดีย์ ปีพุทธชยันตี 2,600 ปี วัดห้วยน้ำอุ่น ลำพูน.
รายการที่สองคือ เหรียญหลวงปู่ครูบาบุญยัง รุ่นแรก สร้างเจดีย์ ปีพุทธชยันตี 2,600 ปี วัดห้วยน้ำอุ่น ตำบลแม่ตื่น อ.ลี้ ลำพูน.....พระเกจิภาคเหนือที่มีพลังจิตเข้มขลัง มีมาตั้งแต่ยุค ครูบาเจ้าศรีวิชัย และยังมี ครูบาชัยยะ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ครูบาจันทร์ติ๊บ อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะ ครูบาชุ่ม ครูบาอินตา วัดห้วยไทร และ ครูบาอินตา วัดวังทอง.....
ส่วนศิษย์รุ่นหลัง ที่มีผู้ศรัทธาเลื่อมใสมากรูปหนึ่ง ก็คือ ครูบาบุญยังปุญญังกโร เจ้าอาวาสวัดห้วยน้ำอุ่น ศิษย์ครูบาชัยยะ และเป็นศิษย์น้องครูบาอภิไชย ศิษย์ ครูบาศรีวิชัย จึงทำให้พระทางเหนือถือว่า ครูบาบุญยัง เป็น สายตรงครูบาศรีวิชัย.....
ครูบาบุญยัง ยึดแนวทางปฏิบัติทั้งความเคร่งครัดในพระวินัย การฝึกจิตวิปัสสนากัมมัฏฐานมาจากอาจารย์ของท่านทุกประการ ท่านจะตื่นตีสาม และเดินจงกรมจนถึงหกโมงเช้า และพระภิกษุทุกรูปในวัดนี้จะฉันแต่ภัตตาหารเจ ตัวท่านเองก็ถือสันโดษ พูดน้อย ถ่อมตน ไม่ยินดีในลาภสักการ.....
ใน ปีครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ท่านจึงให้สร้าง เหรียญครูบาหลวงปู่บุญยัง รุ่น 1 รุ่นสร้างเจดีย์ 2,600 ปี (พุทธชยันตี) ขึ้น โดยมี จินตนา ขันอาษา เป็นประธานจัดสร้าง เพื่อหาทุนทรัพย์สร้างเจดีย์ โดยทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกวาระแรก ไป ณ อาศรม พรหมธาดาดพุทธสถาน อ.จอมทอง เชียงใหม่ และครั้งสุดท้าย ณ วัด
ห้วยน้ำอุ่น เมื่อ 16 พ.ย. และวันลอยกระทง เพ็ญเดือน 12 เมื่อ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา
พญาครุฑเพชรลังกา รุ่นแรก พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ.
รุ่น สุดท้ายมาจากสำนักดังขลังทางใต้ ของ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ซึ่งจัดสร้างเครื่องรางของขลัง ครุฑ คือ พญาครุฑเพชรลังกา รุ่นแรก.....เป็น ที่เชื่อถือศรัทธากันมานานแล้วว่า ครุฑ พ่อท่านเขียว มีอานุภาพด้านแคล้วคลาด ทหารภาคใต้จึงนิยมห้อยครุฑท่านติดตัว เพราะมีประสบการณ์แคล้วคลาดให้ได้ยินเสมอ.....
นอก จากดีด้านคุ้มครอง ครุฑพ่อท่านเขียว ยังมีดีเรื่องอำนาจบารมี เหมือนพญาครุฑ สัตว์ในหิมพานต์ที่ทรงอานุภาพมาก .....
พ่อท่านเขียว เสก ครุฑเพชรลังกา ตั้งแต่ปี 2554 ในวาระครบ 7 รอบ เพราะท่านบอกว่าครุฑเป็นของสูง จะเสกให้มีฤทธานุภาพและขลัง ต้องให้ครบตามตำรา จึงกำหนดเสกถึง 3 วาระ.....
ด้วยรูปทรงพญาครุฑที่ สง่างาม ดูแล้วมีอำนาจ และยังเข้าพิธีครบถ้วน จึงเป็น เครื่องรางของขลัง ที่ครบทั้งพุทธศิลป์และพุทธคุณ ที่เชื่อว่าน่าจะติดทำเนียบเครื่องรางยอดนิยมในอนาคตแน่-
ก่อนจะลาไปติดตามข่าวการเมือง ไปติดตามข่าวการมุ้งยุ่งยิ่งของ เสี่ยเกรียงไกร เจ้าของสวนอาหารย่านพุทธมณฑลกันก่อน เพราะขยันมีกิ๊กให้เมียเจ๊ยุพา จับได้บ่อยๆ พอเมียจับได้แกก็เลิก (คงเบื่อพอดี) แก้ตัวว่าเป็นเพราะ พระปิดตา ที่ห้อยคออยู่มีพุทธคุณดีด้านเมตตามหาเสน่ห์ ส่วนใจจริงแสนจะซื่อสัตย์รักเมียคนเดียว.....
เจ๊ยุพา เห็นผัวยอมเลิกโดยดีก็ไม่ว่าอะไร จนครั้งสุดท้ายไปได้เด็กเสิร์ฟในร้าน ก็เลยเลื่อนชนชั้นให้ลาออก ไม่ต้องทำงาน ไปอยู่คอนโด รอเฮียไปหา.....
เจ๊ ยุพา ก็ตามจับได้อีก ครั้งนี้โกรธมาก เพราะเป็นเด็กในร้าน เลยจัดการให้เลิกเด็ดขาด แล้วบังคับเอา พระปิดตา ออกจากคอผัวจอมแรดมาเก็บไว้ แล้วให้เอารุ่นอื่นที่มั่นใจว่าห้อยไปรับรองไม่มีสาวมาติดแน่ให้ผัวคล้องคอ แทน และให้จุดธูปสาบานว่าจะคล้องไว้ตลอด ถอดได้เวลาอยู่บ้านเท่านั้น--ด้วยความสำนึกผิด เสี่ยเกรียงไกร ก็ยอมทําตามอย่างเคร่งครัด.....
จนวันหนึ่ง เพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันมาชวนไปกินข้าว คุยรําลึกความหลังกันครึกครื้น สุดท้ายคุยกันถึงพระเครื่อง พอคนหนึ่งบอกว่าใช้ พระนางพญา อยู่ เสี่ยเกรียงไกร ก็หัวเราะบอกว่าเป็น พระผู้หญิง เพื่อนเลยถามว่า แล้วมึงห้อยพระเครื่องอะไร แล้วล้วงคอดึงสร้อยออกจากเสื้อ เสี่ยเกรียงไกร ที่ตะปบไว้ไม่ทัน.....
พอเห็นเต็มตาเพื่อนก็บอกว่ากูห้อย พระนางพญา ก็นึกว่าเจ๋งแล้ว แต่ยอมแพ้ เพราะมึงเล่นห้อย พระนางพญามาร--เพราะในตลับพระเครื่องที่ เสี่ยเกรียงไกร ห้อยอยู่เป็นรูป เจ๊ยุพา ทำหน้ายักษ์เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น