สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่28/07/56

สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่28/07/56



พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆังโฆสิตาราม ของอรอนงค์ หิรัญพานิช.
ชาว ไทยพุทธเข้าสู่บรรยากาศ  เข้าพรรษา มาหลายวันแล้ว ซึ่งจะไปสิ้นสุดวันที่ 19 ต.ค. นี้ แต่หลายๆคนบอกว่า คนเข้าวัดน้อยกว่าปีก่อน เพราะกรณี สมีคำ กับ สีกาแอน–ทิดมิตซูโอะ ทำให้คนที่ยังทำใจแยกแยะไม่ได้ เสื่อมศรัทธาพระสงฆ์องค์เจ้าไปเยอะ--ดังนั้น หลวงพ่อหลวงพี่ก็ต้องช่วยกันกอบกู้ภาพพจน์พระกันอย่างจริงจัง นั่งสวดนะโมตัสสะอย่างเดียวไม่พอแร้ว ขอบอก.....

เข้าสนามพระเครื่อง ก็ได้เจอพระสวย คือ พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ วัดระฆังโฆสิตาราม องค์นี้เป็นพระหน้าเก่า แต่ถูกเก็บเงียบ ไปจําวัดอยู่ในรังใหญ่มานาน.....
ที่ น่าสนใจคือ ถ้าหากพิจารณาพิมพ์ทรงเผินๆ อาจเข้าใจว่าเป็น พระสองคลอง เพราะ พิมพ์นี้ มีเหมือนกันสองวัด และ เส้นบังคับพิมพ์ ก็ไม่ชัดเจน.....
แต่ พอดู เนื้อมวลสารด้านหลัง จะเห็นความเป็น สูตรเนื้อมาตรฐาน วัดระฆังฯ ชัดเจน อีกทั้งเป็นพระที่ ไม่มีคราบกรุ ให้เห็นแม้ปลายเข็ม จึงได้ข้อยุติว่าเป็น พระระฆัง ฝั่งธนฯ แน่ ถึงวันนี้องค์ท่านย้ายกุฏิมาจำวัดอยู่กับ อรอนงค์ หิรัญพานิช แล้ว.....

ส่วน ที่พูดกันว่า พระเนื้อผง นั้น ก็ขอตอบ คำถามสนามพระ ที่ค้างตอบมานานว่า ถึง ผงวิเศษ ที่ใช้สร้าง ผสมเนื้อพระ คือ ผงปถมัง ผงอิธเจ ผงมหาราช ผงตรีนิ-สิงเห ตลอดจน ผงพุทธคุณ ผงไตรสรณาคมน์ ฯลฯ.....

คือว่า ในการสร้างพระเครื่องให้ บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ใช่แค่กดพิมพ์พระด้วยวัสดุอะไรก็ได้ แต่ โบราณาจารย์ ได้คิดค้นว่า จะต้องเริ่มตั้งแต่ มีดีที่ เนื้อ หรือ ดีใน พอสร้างเสร็จแล้วไปปลุกเสกกำกับ เรียกว่า ดีนอก.....

ผู้ที่จะสร้าง พระเครื่องให้ มีความศักดิ์สิทธิ์ จึงต้อง ทำผง ให้ได้ เป็นอันดับแรก โดยการเรียนวิชา ปถมัง หรือ คัมภีร์ปถมัง ซึ่งเป็น วิชาเบื้องต้น--แต่รายละเอียดว่าจะเรียนยังไง ลงยังไง ลบยังไง เราๆท่านๆอย่าไปลงลึกเลย.....

เอาเป็นว่า จากการเรียน คัมภีร์ปถมัง ดังกล่าว จะทำให้ได้ ผงปถมัง มาใช้เป็น เนื้อพระเครื่อง ซึ่งจะมี อานุภาพทางอยู่ยงคงกระพัน ล่องหนกำบังหายตัว ซึ่งคุณวิเศษของ ผงปถมัง นี้ โบราณาจารย์ยกย่องไว้ขนาดว่า ให้นำผงปถมังผสมกับเครื่องหอม เช่น กฤษณา หญ้าฝรั่น พิมเสน ฯลฯ หรือ ดี เช่น ดีไก่ดำ ดีงูเหลือม ดีวัวเถื่อน ดีเสือเหลือง ดีเต่าตะกน (ซึ่งถือเป็นวัสดุอาถรรพณ์ เกิดตามธรรมชาติ และหายาก) ละลายด้วยน้ำค้าง แล้วสักกระหม่อม จะทำให้อยู่ยงคงกระพันแทงฟันไม่เข้า.....

พระกริ่งคลองตะเคียน พิมพ์ใหญ่ ไหล่ยก อยุธยา ของเทอดธรรม สุวิชาวรพันธ์ ธ.ออมสิน.
 
พระกริ่งคลองตะเคียน พิมพ์ใหญ่ ไหล่ยก อยุธยา ของเทอดธรรม สุวิชาวรพันธ์ ธ.ออมสิน.
ส่วน ผงอิธเจ มีอานุภาพทางเสน่ห์นิยม จึงนิยมใช้ผสมสีผึ้งสีปาก จะทำให้พูดอะไรไปใครรักใครเชื่อ ผงมหาราช ก็ดีทางเมตตา ส่วน ผงตรีนิสิงเห มีอานุภาพดีทางแก้ ถอนคุณไสย.....
แต่ทุกวันนี้ จะหาพระเกจิทำผง อย่างถูกต้องตามตำรายากมาก แถมยังมีการผลิตขาย ใครอยากสร้างพระ ก็ไปซื้อมาใช้ได้เลย.....

รายการ ที่สองเป็นพระขลังชื่อดัง พระกริ่งคลองตะเคียน พิมพ์ใหญ่ ไหล่ยก อยุธยา ประวัติความเป็นมาของพระเครื่องสกุลนี้ไม่มีหลักฐานชัดเจน มีแต่คำบอกเล่ากันมาว่าพบพระกระจัดกระจายในบริเวณวัดร้าง ที่ตั้งอยู่บนริมฝั่งคลองตะเคียน มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4.....
เชื่อ กันว่าเป็นพระเครื่องที่ สร้างมาจากวัดประดู่โรงธรรม นํามาบรรจุกรุไว้โดยอดีตเจ้าอาวาสวัดนี้ พิมพ์พระมีลักษณะเหมือน พระคง ลําพูน ต่างที่ ปลายด้านบน ส่วนใหญ่มีลักษณะ จับเป็นจีบแหลม เปรียบได้คล้าย เล็บครุฑ.....

ใต้ฐานมีรอยพับเนื้อปิดรูบรรจุเม็ดกริ่ง จิกลึกด้วยปลายเล็บจารอักขระเลขยันต์กํากับ เป็นพระ เนื้อดิน ผสมผงใบลานเผาสีดํา มีบ้างที่เป็นสีนํ้าตาลแบบที่เรียกว่า สีไผ่สุก เพราะโดนไฟไม่เท่ากัน พิมพ์พระแยกเป็น ใหญ่ กลาง เล็ก องค์ในภาพนี้ของ เสี่ยเทอดธรรม สุวิชาวรพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายตรวจสอบ ธ.ออมสิน.....
พระกริ่งสัมพุทโธ สมเด็จพระสังฆราช (ชื่น นพวงศ์) วัดบวรฯ 2491 ของฐกร บึงสว่าง.
 
พระกริ่งสัมพุทโธ สมเด็จพระสังฆราช (ชื่น นพวงศ์) วัดบวรฯ 2491 ของฐกร บึงสว่าง.
องค์ ที่สามตามมา คือ พระกริ่งสัมพุทโธ สมเด็จพระสังฆราช  (ชื่น  นพวงศ์) วัด บวรฯ สร้างคราวงานสมโภชพระชนมายุ 6 รอบ เมื่อปี 2491 ทําพิธีเททองด้วย เนื้อโลหะผสมแบบพระบูชา (ก้นกลวง) บรรจุผงพุทธคุณ เม็ดกริ่ง ปิดก้นด้วย แผ่นทองฝาบาตร ฐานด้านหน้าตอกอักษร สัมพุทโธ ฐานด้านหลังบางองค์ ตอก ส.ห.แบบองค์นี้ของ เสี่ยฐกร บึงสว่าง.....
องค์ต่อไป คือ พระสมเด็จผงญาณวิลาส หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ อ.เขาย้อย เพชรบุรี.....
พอเอ่ยถึง พระหลวงพ่อแดง หลายคนก็ร้องว่า แพง เพราะติดอยู่กับ เหรียญรุ่นแรกรุ่นสอง ของท่านที่เป็นแสนเป็นล้าน.....

แต่ รายการนี้ เป็น ของดีราคาถูก (กว่า) เนื้อมี 4 สี ขาว เหลือง ดํา (ใบลาน) แดง ผสมนํ้าหมาก สร้างปี พ.ศ.2509 โดย พระครูปลัดบุญส่ง เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน มี 3 พิมพ์คือ พระสมเด็จ พระนางพญา และ พระปิดตามหาลาภ ซึ่ง หลวงพ่อแดง ทําพิธีปลุกเสก 3 ไตรมาส นําเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกหลายครั้งนับไม่ถ้วน จำนวนการสร้างราว 40,000 องค์.....
แรกออกบูชาได้รับความนิยมมาก เพราะ เหรียญรุ่นแรก แสดงปาฏิหาริย์ เป็นข่าวหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ แต่เมื่อปี พ.ศ.2517 หลังหลวงพ่อมรณภาพ ศิษย์ผู้ไปร่วมงานทําบุญบูชาพระรุ่นนี้ออกมามาก ทําให้มีเสียงลือว่าเป็นพระสร้างเสริม ทําให้ความนิยมหยุดไป.....
พระสมเด็จผงญาณวิลาส หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี ของชรินทร์ วังเส็ง บมจ.กรุงเทพประกันภัย.
พระสมเด็จผงญาณวิลาส หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี ของชรินทร์ วังเส็ง บมจ.กรุงเทพประกันภัย.

แต่ ได้รับการยืนยันจาก พระครูปลัดบุญส่ง และคณะผู้จัดสร้างว่า ไม่มีสร้างเสริม เพราะสร้างเสร็จก็ ทําลายแม่พิมพ์ ต่อหน้าเลย จึงเป็นเรื่องดีสําหรับผู้แสวงหาของดี ที่หลวงพ่อสร้างไว้ เพราะปัจจุบัน พระผงญาณวิลาส รุ่นนี้ ยังเล่นหากันอยู่แค่ราคาหลักพันต้นๆ น่าใช้ที่สุด--องค์นี้เป็นของ เสี่ยชรินทร์ วังเส็ง บมจ.กรุงเทพประกันภัย.....
อีกองค์คือ พระชัยวัฒน์ พิมพ์กลาง หลวงพ่อสุด วัดมัชฌิมาราม (หนองหวาย) อ.ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี.....
พระชัยวัฒน์ พิมพ์กลาง หลวงพ่อสุด วัดมัชฌิมาราม สุราษฎร์ฯ ของก่อ ชุมพร.
 
พระชัยวัฒน์ พิมพ์กลาง หลวงพ่อสุด วัดมัชฌิมาราม สุราษฎร์ฯ ของก่อ ชุมพร.
หลวง พ่อเป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงด้านความเข้มขลังในวิชาพุทธาคมเป็นอันดับต้นๆของเมือง สุราษฎร์ฯ  สร้างพระปิดตาเนื้อโลหะผสมให้ศิษย์ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2460 มีชื่อเสียงลือเลื่องด้านมหาอุดหยุดลูกปืน  เป็นที่แสวงหาของนักเลงสุราษฎร์ฯ จากอดีตถึงปัจจุบัน แต่หายาก เพราะท่านสร้างไปแจกศิษย์คราวละไม่มาก.....

จนเมื่อประมาณปี พ.ศ.2485 ท่านจึงเริ่มสร้าง  พระชัยวัฒน์  เนื้อทองผสมเทหล่อโบราณขึ้นเป็นทางการ เพื่อหารายได้บูรณะวัด เล่ากันว่าหากมีใครไปถามหลวงพ่อว่าพระมีดีเหมือน  พระปิดตา  ไหม ท่านจะกล่าวตอบว่า ก่อนทําบุญบูชานำพระออกจากวัด ให้พกปืนไปลองยิง ถ้าออกไม่ต้องเอาไป ปรากฏว่ามีคนนำไปลอง แล้วยิงไม่ออก จึงเป็นที่เลื่องลือมาก องค์ในภาพนี้ของ เสี่ยก่อ ชุมพร หล่อพิมพ์พระติดสมบูรณ์คมชัดงดงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา.....

เหรียญหล่อหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ของ ผศ.สมศักดิ์ กาญจนนันทวงศ์ มทร.ศรีวิชัย นครศรีฯ.
 
เหรียญหล่อหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ของ ผศ.สมศักดิ์ กาญจนนันทวงศ์ มทร.ศรีวิชัย นครศรีฯ.
ต่อ ด้วย เหรียญหล่อหลังเตารีด เนื้อโลหะผสม พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี พระสวยสภาพสมบูรณ์เดิมๆแบบนี้ เห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็น พระเก็บเก่า ไม่มีรอยสึกหรอหรือสัมผัสใช้ให้เห็นแม้แต่น้อย น่าดีใจกับ  ผศ.สมศักดิ์  กาญจนนันทวงศ์ มทร.ศรีวิชัย อ.ทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช ที่เป็นเจ้าของพระดีมีคุณภาพ.....

สุดท้ายได้เครื่องรางของขลังมาดู คือ ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ (หมวกเยอรมัน) วัดสัตหีบ ชลบุรี.....
ปลัดขิก เป็นเครื่องรางของขลังรูปลักษณ์ศิวลึงค์ของพราหมณ์ ที่พระเกจิอาจารย์ในพระพุทธศาสนานํามาสร้างเป็นของขลังลงจารอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกกํากับด้วยพุทธาคม.....
ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ มีอยู่สองสํานักคือ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี กับ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา ต่างมีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่เห็นปุ๊บบอกได้ปั๊บว่าถ้าตัวอวบเนื้ออิ่มโค้งชะโงกซ้าย-ขวาเป็นของ หลวงพ่อเหลือ มีคําสโลแกนกํากับพุทธคุณด้านเมตตามหานิยมว่า “สาวมอง”.....

ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ (หมวกเยอรมัน) วัดสัตหีบ ชลบุรี ของวีรพล พึ่งพา.
 
ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ (หมวกเยอรมัน) วัดสัตหีบ ชลบุรี ของวีรพล พึ่งพา.
ถ้า ตัวยาวเหยียดตรงตึงไม่คดโค้ง เป็นของ หลวงพ่ออี๋ ที่มีคําสโลแกนบอกพุทธคุณด้านคุ้มครองป้องกันภัยว่า ฉลามเมิน แบบตัวนี้ของ เสี่ยวีรพล พึ่งพา ซึ่งด้านหัวเป็นทรงหมวกเยอรมัน ที่นิยมสุด รอยจารครบ เลยกวาดโล่รางวัลชนะเลิศมาแล้ว 3 งานใหญ่.....
เข้าสนาม พระใหม่ ยุคปลอดเณรคำ ล้านเปอร์เซ็นต์ รายการแรกมาแรงมาก คือ พระพุทธเมตตาเสนานาถ ที่จัดสร้างโดยกองทัพบก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และ 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ.....
นอก จากวาระดีมีสิริมงคลแล้ว รูปแบบพระยังงดงาม แปลกตา เพราะได้ตัว อาจารย์สาคร โสภา แห่งสถาบันพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้สร้างสรรค์งานปฏิมากรรม พุทธศิลป์ โดยรวบรวมพุทธศิลป์ทุกยุค  เชียงแสน สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินทร์ มาผสมผสาน พระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย ที่ดูแล้วงดงาม เข้มขลัง แฝงความเมตตา.....
พระพุทธเมตตาเสนานาถ  เนื้อผงพุทธคุณ.พระพุทธเมตตาเสนานาถ เนื้อผงพุทธคุณ.
และ ที่สุดยอดคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อ พระพุทธเมตตาเสนานาถ  แปลว่า  พระพุทธเจ้ามีเมตตาทรงเป็นที่พึ่งของหมู่ทหาร และมีพระบรมราชานุญาตให้นำตราสัญลักษณ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ ประดิษฐานที่ผ้าทิพย์ ฐานพระพุทธรูป และด้านหลังเหรียญ.....
ด้าน หลัง พระสมเด็จพระพุทธเมตตาเสนานาถ ผงพุทธคุณ ซึ่งประกอบด้วย ผง มวลสารศักดิ์สิทธิ์ จากทุกกองทัพภาค จากพระเกจิอาจารย์ ที่ จารแผ่นยันต์ เพื่อจัดสร้าง พระพุทธเมตตาเสนานาถเนื้อโลหะ ให้ด้วย จึงเป็นรุ่นที่มีชนวนมวลสารจากพระเถระมากสุดๆ--พิธีพุทธาภิเษก ณ พุทธมณฑล 26-27 ก.ค. นี้ จองได้ที่หน่วยทหารในสังกัดกองทัพบก ธนาคารทหารไทย
อีกรายการ เห็นชื่อหลวงพ่อแล้ว ต้องรีบจอง เพราะระยะหลัง หลวงพ่อคูณ ไม่ค่อยออกวัตถุมงคล และยังสามวันดีสี่วันอาพาธ พอมีพระท่านออกมา ลูกศิษย์เลยต้องรีบเก็บ.....
หลวงพ่อคูณ พิมพ์นั่งพาน เนื้อผงพุทธคุณ รุ่นคุณพระเทพวิทยาคม.
หลวงพ่อคูณ พิมพ์นั่งพาน เนื้อผงพุทธคุณ รุ่นคุณพระเทพวิทยาคม.
รุ่น นี้คือ หลวงพ่อคูณ รุ่น “คุณพระเทพวิทยาคม” ซึ่งเป็น ครั้งแรก ที่มีการจัดสร้าง เหรียญหลวงพ่อคูณ ด้วยพุทธศิลป์ แกะสลักลาย 5 ชิ้น ประกบประกอบกันเป็นเหรียญที่งดงามอ่อนช้อย มี หลวงพ่อคูณ นั่งบนพาน ขนาบด้วย พญาศรีนาคราช สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์.....
ชนวนมวลสาร มี แผ่นพระยันต์ ซึ่งผ่านการจุนเจิมโดย หลวงพ่อคูณ ตะกรุดทองคำ เส้นเกศา ชนวนพระกริ่งชินบัญชร ปี 18, แผ่นพระยันต์ 108 พระเกจิ, พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ) และแผ่นยันต์ชนวน พระเกจิทั่วประเทศ ฯลฯ.....
หลวงพ่อคูณ เริ่มสร้างวัตถุมงคลหลังบวชแล้ว 7 พรรษา ราวปี 2493 เป็น ตะกรุดโทน ตะกรุดทองคำ เพื่อฝังที่ใต้ท้องแขน ซึ่งท่านบอกว่า “ใครขอ กูก็ให้ ไม่เลือกยาก ดีมีจน”.....
เวลาปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อคูณจะใช้คาถาไม่กี่บท หัวใจพระคาถามีว่า มะอะอุ นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ พุทโธ และยานะ  แต่จะใช้วิธี  อนุโลมปฏิโลม (การต่อตามและย้อนลำดับ) เรียกว่า คาบพระคาถา มี 16 อักขระ ดังนี้ นะ มะ พะ ธะ มะ พะ ธะ นะ พะ ธะ นะ มะ ธะ นะ มะ พะ--ใครแน่ก็ลองท่องไม่ให้ผิด.....
เปิดให้จองบูชาทั่วประเทศ และที่วัดบ้านไร่
อีกรายการ ก็เป็นของ หลวงพ่อคูณ คือรุ่น อุดมโภคทรัพย์คูณ ๙๐ ซึ่งได้รับความสนใจมากๆ เพราะ เหรียญเทพชุมนุม แสนคาถาล้านอาคม เป็น สุดยอดเหรียญ ที่มี พระยันต์มากที่สุด เพราะรวบรวมคาถาที่ หลวงพ่อคูณ ใช้ประจำ ล้วนแต่สุดยอดแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี และเมตตา มหานิยม มาไว้ ในเหรียญเดียว มีทั้งคาถา พระเจ้า 5 พระองค์ หัวใจพระไตรปิฎก คาถาธาตุ 4 หัวใจเศรษฐี หัวใจพระสิวลี พระอรหันต์แปดทิศ กับอัญเชิญเทวดาประจำวันเกิดมาอวยชัย.....
เหรียญเทพชุมนุม แสนคาถาล้านอาคม และ รูปหล่อ หลวงพ่อคูณ รุ่นอุดมโภคทรัพย์คูณ ๙๐.
เหรียญเทพชุมนุม แสนคาถาล้านอาคม และ รูปหล่อ หลวงพ่อคูณ รุ่นอุดมโภคทรัพย์คูณ ๙๐.
ที่ สำคัญ ด้านหลังมี ยันต์เทพชุมนุม ซึ่งถือเป็น พระยันต์ใหญ่ อัญเชิญเทพยดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน มาปกป้อง กันเสนียดจัญไร มีองค์พระคุ้มครองทั้ง 4 ทิศ และ หนุมาน ซึ่งถือเป็นสุดยอดของชัยชนะ มหาเสน่ห์-จึงถือเป็น เหรียญแรก ที่นำ ยันต์เทพชุมนุม มาใส่บนเหรียญได้สำเร็จ.....
อีกแบบคือ รูปหล่อหลวงพ่อคูณ ซึ่งบรรจุจีวร เกศา เทียนชัย ก่อนปิดก้นและตะไบ รูปหล่อรุ่นนี้ถือว่าสวยงาม และเหมือนหลวงพ่อที่สุด แต่สร้างน้อยมาก เลยเกือบหมดแล้ว เนื้อเงิน มีไม่ถึง 100 องค์.....
ถ้าอยากประหยัด ก็บูชา เนื้อกระดิ่งเก่า เก็บไว้ เพราะอนาคตหายากแน่ เพราะใช้เนื้อกระดิ่งเก่า อายุ 60-80 ปี ซึ่งถือเป็น เนื้อกระดิ่งเรียกทรัพย์ จัดสร้าง--สอบถามที่ 08-7767-1856, 08-1822-9419, 0-2467-5082  หรือคลิกดู www.maharatamulet.com.....
สุด ท้ายเป็นข่าวงานใหญ่เมืองนครศรีฯ จาก เสี่ยฮ่าว จันดี ว่าจะมีงานใหญ่ 1-5 ส.ค.นี้ เพื่อฉลองสมโภชศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีมหรสพ ตลาดนัดพระเครื่อง นิทรรศการฯ โรงทาน เทกระจาด.....
และที่ทุกคนรอคอย คือ มีการรับตรวจสอบออกใบการันตีความแท้ จตุคามรามเทพ ในวันที่ 3-4 ส.ค. ด้วย.....
จาก ที่คิดกันว่า จตุคามรามเทพ ล่มสลายไป แต่จริงๆยังมีคนเล่นอยู่เหมือนเดิม เพราะรุ่นปี 2530-2536 รุ่น 2543-2545 และรุ่น 2547-2550 ที่รับตรวจเช็ก รวมทั้งผ้ายันต์ปีต่างๆ ยังมีความนิยมอยู่.....
ลากันวันนี้ เป็นเรื่อง อาซิ้ม สมพร เจ้าของกิจการขายส่งสินค้าที่อ่างทอง ซึ่งรู้จักกับ เฮียเพ้ง พ่อค้าพระเครื่องของเก่ามาหลายสิบปี เวลา เฮียเพ้ง ถังแตก ก็หยิบยืมได้ไม่เคยเบี้ยว.....
อาซิ้ม ชอบทำบุญเข้าวัด เวลาเจอ เฮียเพ้ง ก็ชอบคุยเรื่องพระสงฆ์พระเครื่อง แต่ไม่เคยเช่าเลย.....
วัน ก่อน แกพาหลานชายไปหา เฮียเพ้ง แต่ไม่เจอ เจอแต่ เจ๊ลัดดา เมีย เฮียเพ้ง แกก็บอกว่า อยากหา พระสมเด็จวัดเกศไชโย ไม่ต้องสวย ราคาซัก 2-300,000 ไว้ให้หลานชายใช้คุ้มครองตัว.....
เจ๊ลัดดา จำได้ว่ามี พระสมเด็จวัดเกศ อยู่ในเซฟ จึงไปเอามาให้ดู บอกว่าติดราคาไว้ 350,000 อาซิ้ม ก็บอก อั๊วซื้อ แล้วก็นั่งคุยกับ เจ๊ลัดดา ซึ่งช่างจ้อ ก็เล่าประวัติพระใหญ่เลย บอกว่า เป็นพิมพ์พิเศษหายาก คนรุ่นเก่าเรียกว่า พิมพ์นักเลงโต.....
แต่ อาซิ้ม กลับตกใจตาโต รีบบอก อั๊วไม่เอาดีกว่า มีองค์อื่นอีกมั๊ย เจ๊ลัดดา ก็งง แต่บอกว่า ต้องรอเฮียกลับ อาซิ้ม เลยนัดพรุ่งนี้จะมาใหม่.....
พอ เฮียเพ้ง กลับมา เจ๊ลัดดา ก็เล่าให้ฟังแล้วบ่น ทําไม อาซิ้ม เปลี่ยนใจง่ายจัง เฮียเพ้ง บอกเมียว่า เดี๋ยวจัดการเอง.....
รุ่งขึ้น อาซิ้ม จูงหลานมาอีก ถามหาพระสมเด็จวัดเกศไชโย เฮียเพ้ง ก็ไปหยิบพระมาให้ดูบอกเป็น พิมพ์นักกล้าม.....
อาซิ้ม ยิ้มชอบใจ เออ องค์นี้ดี แล้วก็จ่ายเงิน พาหลานกลับไป.....
ฝ่าย เจ๊ลัดดา ซึ่งทนคันปากอยู่นาน ถามผัวว่า ก็พระองค์เดิมนี่นา ทําไมเมื่อวานไม่ซื้อ เฮียเพ้ง บอก ก็ลื้อไม่ละเอียด ไม่รู้จักดูว่าหลานชายอาซิ้ม เป็นเด็กพิเศษออทิสติก ขี้โรคผอมแห้งเห็นๆ เดินยังไม่ค่อยจะไหว แล้วลื๊อดันไปบอกว่าเป็นพิมพ์ นักเลงโต แกก็กลัวหลานจะเป็นนักเลง เพราะสู้ใครไม่ได้แน่ พออั๊วบอกเป็น  พิมพ์นักกล้าม แค่นี้แกก็ชอบใจ หลานจะได้มีพระแข็งแรงคุ้มครอง--เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะขายพระ ต้องดูคนด้วย เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 16/02/57

สนามพระ สนามพระเครื่อง วันที่ 14/07/56